สวนดุสิตโพลมหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,392 คน ระหว่างวันที่ 19-24 ต.ค.ที่ผ่านมา ถึงการปฏิรูปประเทศไทยในขณะนี้ โดยประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 87.21 ระบุว่า ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันของทุกภาคส่วนเป็นสิ่งที่ถ่วงความเจริญของประเทศไทยที่ต้องเร่งปฏิรูปมากที่สุดรองลงมา ร้อยละ 79.17 เรื่องความขัดแย้งแตกแยกที่มาจากการเมือง และร้อยละ 74.06 คือผู้มีอิทธิพล/มาเฟียส่วนแนวทางหลักในการปฏิรูปประเทศ เพื่อสร้างความเจริญในสายประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 81.25 อยากให้สร้างคุณภาพทางการเมือง โดยเฉพาะนักการเมืองการซื้อสิทธิขายเสียงการโกงการเลือกตั้ง รองลงมาร้อยละ75.65 ระบุการกวดขัน/เร่งรัดการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และร้อยละ 72.20 ให้เร่งสร้างความเสมอภาค และความเป็นธรรมกับสังคมไทยโดยเฉพาะความยากจน
ส่วนความคาดหวังของประชาชนต่อผู้ที่จะปฏิรูปประเทศไทยให้บรรลุผลส่วนใหญ่ร้อยละ 83.89 ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ที่สามารถใช้มาตรา 44 ได้รองลงมาร้อยละ 78.08 คสช. และ ครม.ในชุดปัจจุบัน และร้อยละ 76.34 ระบุประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ทุกภาคส่วน ต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง
ส่วนความคาดหวังของประชาชนต่อผู้ที่จะปฏิรูปประเทศไทยให้บรรลุผลส่วนใหญ่ร้อยละ 83.89 ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ที่สามารถใช้มาตรา 44 ได้รองลงมาร้อยละ 78.08 คสช. และ ครม.ในชุดปัจจุบัน และร้อยละ 76.34 ระบุประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ทุกภาคส่วน ต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง
