พันตำรวจเอกสมพร แดงดี รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ต้องการประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชน ตระหนักรู้เกี่ยวกับการโพส แชร์ ข้อความเท็จที่สร้างความเสียหายให้ผู้อื่น และสร้างความวุ่นวายในสังคม ว่ามีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมา มีประชาชน เข้ามาร้องเรียนจำนวนมาก และเมื่อจับผู้โพสต์ หรือ แชร์ ข้อความได้ ก็มักอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงฝากเตือนประชาชน ว่าการโพสต์ข้อความ หรือ สิ่งต่างๆ ในสังคมออนไลน์ สามารถตรวจสอบได้ เพราะมีหลักฐานปรากฎชัดเจน แม้จะมีการปลอมชื่อเพื่ออำพรางตัวตน รวมถึงผู้ที่กดไลค์ หรือ คอมเม้นท์ ก็อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายได้ เนื่องจากเป็นการสนับสนุน การกระทำความผิด
นอกจากนี้ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ได้รวบรวม 10 พฤติกรรม "ไลค์ เม้นท์ แชร์ โพสต์ เสี่ยงคุก" ที่ประชาชนมักกระทำผิดไว้ ประกอบด้วย
1.การอัพโหลดรูปลามก อนาจาร ทั้งรูปตัวเอง และบุคคลอื่น
2.ตั้งตัวเป็นเจ้ากรมข่าวลือ ปล่อยข่าวให้บ้านเมืองเกิดความชุลมุนวุ่นวาย
3.ชอบใช้วิทยายุทธเฉพาะตัว คือ การตัดต่อภาพบุคคลอื่นทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว มาเผยแพร่ทางอินเตอร์เนต ทำให้เจ้าของภาพ เสียหาย อับอาย
4.แอบบันทึกข้อมูลของผู้อื่น แล้วนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว เพื่อหากำไร หรือ ใช้กลั่นแกล้ง
5.ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น หรือ กุเรื่องให้บุคคลอื่นเสียหาย อับอาย
6.มีความอยากรู้อยากเห็นสูง หรือ เรื่องชาวบ้านคืองานของเรา คือการ นำ ไอดี หรือ พาสเวิร์ด บุคคลอื่น ไปใช้เพื่อแอบดูข้อมูล
7.แก้ไขเพิ่มเติมไฟล์งานของบุคคลอื่น ทำให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของไฟล์
8.ส่งอีเมลล์ลูกโซ่โดยไม่บอกที่มา หรือ ส่งอีเมลล์ที่ขายสินค้าที่ผู้รับไม่ต้องการ สร้างความเบื่อหน่ายและรำคาญ
9. ตั้งสำนักข่าวเป็นของตัวเอง หรือ กดแชร์ข้อมูล ทั้งในแอพพลิเคชั่น ไลน์ เฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ โดยไม่ตรวจสอบและเป็นข้อความที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และ
10. การโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันเบื้องสูง
นอกจากนี้ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ได้รวบรวม 10 พฤติกรรม "ไลค์ เม้นท์ แชร์ โพสต์ เสี่ยงคุก" ที่ประชาชนมักกระทำผิดไว้ ประกอบด้วย
1.การอัพโหลดรูปลามก อนาจาร ทั้งรูปตัวเอง และบุคคลอื่น
2.ตั้งตัวเป็นเจ้ากรมข่าวลือ ปล่อยข่าวให้บ้านเมืองเกิดความชุลมุนวุ่นวาย
3.ชอบใช้วิทยายุทธเฉพาะตัว คือ การตัดต่อภาพบุคคลอื่นทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว มาเผยแพร่ทางอินเตอร์เนต ทำให้เจ้าของภาพ เสียหาย อับอาย
4.แอบบันทึกข้อมูลของผู้อื่น แล้วนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว เพื่อหากำไร หรือ ใช้กลั่นแกล้ง
5.ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น หรือ กุเรื่องให้บุคคลอื่นเสียหาย อับอาย
6.มีความอยากรู้อยากเห็นสูง หรือ เรื่องชาวบ้านคืองานของเรา คือการ นำ ไอดี หรือ พาสเวิร์ด บุคคลอื่น ไปใช้เพื่อแอบดูข้อมูล
7.แก้ไขเพิ่มเติมไฟล์งานของบุคคลอื่น ทำให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของไฟล์
8.ส่งอีเมลล์ลูกโซ่โดยไม่บอกที่มา หรือ ส่งอีเมลล์ที่ขายสินค้าที่ผู้รับไม่ต้องการ สร้างความเบื่อหน่ายและรำคาญ
9. ตั้งสำนักข่าวเป็นของตัวเอง หรือ กดแชร์ข้อมูล ทั้งในแอพพลิเคชั่น ไลน์ เฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ โดยไม่ตรวจสอบและเป็นข้อความที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และ
10. การโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันเบื้องสูง