นายสมพงษ์ สระกวี สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงแนวทางปฏิรูปการเมืองของ สปท.ว่า ในการประชุมกลุ่มย่อยของ สปท.ด้านการเมือง เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา มีการพูดถึงภารกิจเร่งด่วน ที่ต้องปฏิรูปทางการเมือง คือการสร้างบรรยากาศความปรองดอง มีการหยิบยกเรื่องการนิรโทษกรรมมาหารือกัน โดยเห็นตรงกันในหลักการว่า ควรนิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดทุกสีเสื้อ ทั้งกลุ่มพันธมิตรฯ นปช. และกปปส. ที่มีความผิดคดีเล็กน้อย ซึ่งมีมูลเหตุการกระทำผิดมาจากแรงจูงใจทางการเมือง แต่ยังไม่มีการกำหนดประเภทคดีเล็กน้อยที่จะได้รับนิรโทษกรรม
ส่วนแกนนำการชุมนุม ตลอดจนความผิดคดีทุจริต คดีมาตรา 112 และผู้ที่หนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ จะไม่อยู่ในข่ายได้รับการนิรโทษกรรม เรื่องดังกล่าวจะเป็นหัวข้อแรกๆ ที่จะผลักดันให้ สปท. ดำเนินการ เพื่อให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรมก่อนมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ ส่วนจะมีการตั้งคณะกรรมการปรองดองขึ้นมา เพื่อผลักดันเรื่องการนิรโทษกรรมหรือไม่ ที่ประชุมยังไม่ได้พูดถึง แต่จะนำแนวทางคณะกรรมการศึกษาการสร้างความปรองดองชุดที่ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เคยศึกษาไว้นำมาสานต่อ อีกเรื่องที่ที่ประชุมกลุ่มย่อย สปท.ด้านการเมือง หารือกันคือทุนพรรคการเมือง ที่มีการวางหลักการว่า อยากให้ประชาชนร่วมเป็นเจ้าของพรรคการเมือง จะต้องวางแนวทางให้ประชาชนเป็นเจ้าของพรรคการเมืองตัวจริง เพื่อไม่ให้พรรคการเมืองอยู่ใต้อิทธิพลของนายทุนเหมือนในปัจจุบัน
ส่วนแกนนำการชุมนุม ตลอดจนความผิดคดีทุจริต คดีมาตรา 112 และผู้ที่หนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ จะไม่อยู่ในข่ายได้รับการนิรโทษกรรม เรื่องดังกล่าวจะเป็นหัวข้อแรกๆ ที่จะผลักดันให้ สปท. ดำเนินการ เพื่อให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรมก่อนมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ ส่วนจะมีการตั้งคณะกรรมการปรองดองขึ้นมา เพื่อผลักดันเรื่องการนิรโทษกรรมหรือไม่ ที่ประชุมยังไม่ได้พูดถึง แต่จะนำแนวทางคณะกรรมการศึกษาการสร้างความปรองดองชุดที่ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เคยศึกษาไว้นำมาสานต่อ อีกเรื่องที่ที่ประชุมกลุ่มย่อย สปท.ด้านการเมือง หารือกันคือทุนพรรคการเมือง ที่มีการวางหลักการว่า อยากให้ประชาชนร่วมเป็นเจ้าของพรรคการเมือง จะต้องวางแนวทางให้ประชาชนเป็นเจ้าของพรรคการเมืองตัวจริง เพื่อไม่ให้พรรคการเมืองอยู่ใต้อิทธิพลของนายทุนเหมือนในปัจจุบัน