นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตามที่สำนักงานฯ ได้ร่างประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่องกําหนดสถานที่ หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รอบสถานศึกษา พ.ศ. 2558 นั้น ล่าสุด ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว มีผลบังคับในวันที่ 23 ตุลาคมนี้ ซึ่งประกาศฉบับนี้ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 และมาตรา 27 (8) แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ
มีรายละเอียดดังนี้ 1. ห้ามผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ หรือบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา หรือหอพักบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา ตามข้อ 6 วรรคหนึ่ง แห่งคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ในทาง และการควบคุมสถานบริการ หรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ และ 2. ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป โดยนายกฯ ได้ลงนามเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2558
นายแพทย์สมาน กล่าวว่า ประกาศดังกล่าวได้มีการตัดข้อกำหนดในเรื่องระยะห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา 300 เมตร เป็นใช้ตามดุลพินิจแทน เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หากฝ่าฝืนตามประกาศฉบับดังกล่าวจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
มีรายละเอียดดังนี้ 1. ห้ามผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ หรือบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา หรือหอพักบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา ตามข้อ 6 วรรคหนึ่ง แห่งคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ในทาง และการควบคุมสถานบริการ หรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ และ 2. ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป โดยนายกฯ ได้ลงนามเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2558
นายแพทย์สมาน กล่าวว่า ประกาศดังกล่าวได้มีการตัดข้อกำหนดในเรื่องระยะห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา 300 เมตร เป็นใช้ตามดุลพินิจแทน เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หากฝ่าฝืนตามประกาศฉบับดังกล่าวจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ