ความคืบหน้าหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ป่าไม้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว(ทุ่งกะมัง) อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ สืบทราบว่ามีกลุ่มพรานป่าเข้ามาลักลอบตัดไม้กฤษณา หรือไม้หอม ในเขตพื้นที่ตั้งอยู่ห่างจากสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวประมาณ 3.5 กม. จึงเร่งประสานขอกำลังเสริมจากหน่วยชุดลาดตระเวนเข้าไปสมทบ ซึ่งมีหัวหน้าชุดพิทักษ์ป่าภูเขียว คือ นายประสิทธิ์ คุ้มหมู่ อายุ 49 ปี นำกำลังเพิ่มเติมเข้าไปสมทบรวมอีก 5 นาย ซึ่งระหว่างทางก่อนเข้าไปถึงจุดเกิดเหตุบริเวณบ้านห้วยระหงส์ รอยต่อเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวและเขตอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ เกิดปะทะกับกลุ่มพรานป่า เมื่อช่วงเวลา 16.30 น.วันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้นายประสิทธิ์ หัวหน้าชุดลาดตระเวณป่าไม้ ถูกยิงเสียชีวิต ก่อนที่กลุ่มพรานป่าจะพากันหลบหนีเข้าป่าไป และทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จ.ชัยภูมิ ต้องระดมกำลังเข้าไปช่วยเหลือสมทบเพิ่มเติมอีกกว่า 190 นาย เพื่อติดตามคนร้าย และนำศพเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เสียชีวิตออกมาได้อย่างทุลักทุเลนานกว่า 5 ชั่วโมง
ล่าสุดช่วงสายวันนี้ได้มีการนำศพนายประสิทธิ์ ส่งที่บ้านเกิดให้กับ นางทองดี คุ้มหมู่ อายุ 50 ปี ภรรยาและลูกๆอีก 2 คน ท่ามกลางบรรยากาศความเศร้าโศก ที่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 9 บ้านขี้เหล็กใหญ่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เพื่อตั้งศพรอบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่วัดบริบูรณ์ ในวันจันทร์ที่ 19 ต.ค.นี้ต่อไป
นางทองดี กล่าวทั้งน้ำตาว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงมาช่วยเหลือครอบครัวที่ตอนนี้ต้องขาดเสาหลักของครอบครัวไปแล้ว และต้องเหลือภาระที่ต้องส่งเสียลูกๆชายและสาว อีก 2 คน ที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.6 และปริญญาตรี และสามีเป็นคนตั้งใจมุ่งมั่นทำงานรักษาป่ามาตลอดนานกว่า 23 ปีแล้ว
ด้านนายมีเดช พงศ์จันทรเสถียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว เปิดเผยถึงการช่วยเหลือครอบครัวว่า ในเบื้องต้นทางกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือครอบครัวเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เสียชีวิตรายนี้แล้ว 1 แสนบาท และในช่วงเวลา 14.30 น.วันนี้ นายชูศักดิ์ ตรีสาน ผู้ว่าราชการ จ.ชัยภูมิ จะเป็นประธานในการมาร่วมรดน้ำศพด้วยตนเอง ก่อนจะมีการทำพิธีทางศาสนาที่วัดบริบูรณ์ในวันที่ 19 ต.ค.นี้ โดยมีรมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินมามาเป็นประธานในพิธี และจะมีการปูนบำเหน็จสนับสนุนช่วยเหลือครอบครัวเจ้าหน้าที่ป่าไม้รายนี้ตามที่เห็นสมควรต่อไป
ส่วนกรณีกลุ่มพรานป่า หรือคนร้ายที่ลงมือยิงเจ้าหน้าที่ป่าไม้เสียชีวิตนั้น ได้มีการระดมสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทั้ง จ.ชัยภูมิ และ จ.เพชรบูรณ์ กว่า 199 นาย ออกติดตามกลุ่มคนร้ายอย่างกระชั้นชิดแล้ว ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 3 คน มีอาวุธปืนครบมือ ส่วนปืนที่ใช้ยิงเจ้าหน้าที่เป็นอาวุธปืนลูกซอง ยิงเข้าหน้าอกซ้ายจนเสียชีวิต และล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ทราบตัวคนร้ายแล้ว โดยพบซิมโทรศัพท์ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และไม่น่าจะเป็นคนต่างชาติ น่าจะเป็นคนในพื้นที่เอง ที่ช่วงนี้ปัญหาการลักลอบเข้ามาตัดไม้ทำลายป่า โดยเฉพาะไม้กฤษณา หรือไม้หอม ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว เริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง จนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ต้องออกจัดชุดกำลังออกลาดตระเวนให้เข้มงวดมากขึ้นต่อเนื่อง และน่าจะได้ตัวกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ได้ในเร็วๆนี้
ล่าสุดช่วงสายวันนี้ได้มีการนำศพนายประสิทธิ์ ส่งที่บ้านเกิดให้กับ นางทองดี คุ้มหมู่ อายุ 50 ปี ภรรยาและลูกๆอีก 2 คน ท่ามกลางบรรยากาศความเศร้าโศก ที่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 9 บ้านขี้เหล็กใหญ่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เพื่อตั้งศพรอบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่วัดบริบูรณ์ ในวันจันทร์ที่ 19 ต.ค.นี้ต่อไป
นางทองดี กล่าวทั้งน้ำตาว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงมาช่วยเหลือครอบครัวที่ตอนนี้ต้องขาดเสาหลักของครอบครัวไปแล้ว และต้องเหลือภาระที่ต้องส่งเสียลูกๆชายและสาว อีก 2 คน ที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.6 และปริญญาตรี และสามีเป็นคนตั้งใจมุ่งมั่นทำงานรักษาป่ามาตลอดนานกว่า 23 ปีแล้ว
ด้านนายมีเดช พงศ์จันทรเสถียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว เปิดเผยถึงการช่วยเหลือครอบครัวว่า ในเบื้องต้นทางกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือครอบครัวเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เสียชีวิตรายนี้แล้ว 1 แสนบาท และในช่วงเวลา 14.30 น.วันนี้ นายชูศักดิ์ ตรีสาน ผู้ว่าราชการ จ.ชัยภูมิ จะเป็นประธานในการมาร่วมรดน้ำศพด้วยตนเอง ก่อนจะมีการทำพิธีทางศาสนาที่วัดบริบูรณ์ในวันที่ 19 ต.ค.นี้ โดยมีรมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินมามาเป็นประธานในพิธี และจะมีการปูนบำเหน็จสนับสนุนช่วยเหลือครอบครัวเจ้าหน้าที่ป่าไม้รายนี้ตามที่เห็นสมควรต่อไป
ส่วนกรณีกลุ่มพรานป่า หรือคนร้ายที่ลงมือยิงเจ้าหน้าที่ป่าไม้เสียชีวิตนั้น ได้มีการระดมสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทั้ง จ.ชัยภูมิ และ จ.เพชรบูรณ์ กว่า 199 นาย ออกติดตามกลุ่มคนร้ายอย่างกระชั้นชิดแล้ว ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 3 คน มีอาวุธปืนครบมือ ส่วนปืนที่ใช้ยิงเจ้าหน้าที่เป็นอาวุธปืนลูกซอง ยิงเข้าหน้าอกซ้ายจนเสียชีวิต และล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ทราบตัวคนร้ายแล้ว โดยพบซิมโทรศัพท์ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และไม่น่าจะเป็นคนต่างชาติ น่าจะเป็นคนในพื้นที่เอง ที่ช่วงนี้ปัญหาการลักลอบเข้ามาตัดไม้ทำลายป่า โดยเฉพาะไม้กฤษณา หรือไม้หอม ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว เริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง จนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ต้องออกจัดชุดกำลังออกลาดตระเวนให้เข้มงวดมากขึ้นต่อเนื่อง และน่าจะได้ตัวกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ได้ในเร็วๆนี้
