นายภาวิช ทองโรจน์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เปิดเผยว่า Times Higher Education ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนิตยสาร Times นิตยสารชื่อดัง ได้ประกาศผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ประจำปี 2015-2016 จำนวน 800 อันดับ
ผลการจัดอันดับกลุ่ม 10 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกของนิตยสารไทม์ ได้แก่ 1.สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (California Institute of Technology) 2.มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด (University of Oxford) 3.มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) 4.มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (University of Cambridge) 5.สถาบันเทคโนโลยีแมสซาซาชูเสส หรือเอ็มไอที (Massachusetts Institute of Technology) 6.มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) 7. มหาวิทยาลัยพริ้นตัน (Princeton University) 8.ราชวิทยาลัยลอนดอน (Imperial College London) 9. สถาบันเทคโนโลยีสวิส-ซูริค(ETH Zurich - Swiss Federal Institute of Technology Zurich) และ 10.มหาวิทยาลัยชิคาโก้ (University of Chicago)
นายภาวิชกล่าวอีกว่า สำหรับมหาวิทยาลัยของไทยในปีนี้ มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) อยู่ในกลุ่ม 501-600 ส่วนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม 601-800 จากเดิมอยู่กลุ่ม 351-400
นอกจากนี้ ยังมีมหาวิทยาลัยไทยที่อยู่ในกลุ่มรั้งท้ายอีก 5 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ส่วนมหาวิทยาลัยในเอเซียที่ถูกจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก ได้แก่ มหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อยู่อันดับ 1 ของเอเซีย และอันดับ 23 ของโลก ส่วนมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ อยู่อันดับที่ 2 ของเอเซีย และอันดับที่ 25 ของโลก
สำหรับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกครั้งนี้ ไทม์ใช้ตัวชี้วัด โดยพิจารณาจาก สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนการสอน ผลงานวิจัย ภาพลักษณ์ระหว่างประเทศในจำนวนสัดส่วนนักเรียน-อาจารย์ การร่วมมือกับสถาบันการศึกษาต่างประเทศ และผลงานวิจัยที่นำไปสู่การสร้างนวัตกรรมในระดับอุตสาหกรรม
ผลการจัดอันดับกลุ่ม 10 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกของนิตยสารไทม์ ได้แก่ 1.สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (California Institute of Technology) 2.มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด (University of Oxford) 3.มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) 4.มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (University of Cambridge) 5.สถาบันเทคโนโลยีแมสซาซาชูเสส หรือเอ็มไอที (Massachusetts Institute of Technology) 6.มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) 7. มหาวิทยาลัยพริ้นตัน (Princeton University) 8.ราชวิทยาลัยลอนดอน (Imperial College London) 9. สถาบันเทคโนโลยีสวิส-ซูริค(ETH Zurich - Swiss Federal Institute of Technology Zurich) และ 10.มหาวิทยาลัยชิคาโก้ (University of Chicago)
นายภาวิชกล่าวอีกว่า สำหรับมหาวิทยาลัยของไทยในปีนี้ มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) อยู่ในกลุ่ม 501-600 ส่วนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม 601-800 จากเดิมอยู่กลุ่ม 351-400
นอกจากนี้ ยังมีมหาวิทยาลัยไทยที่อยู่ในกลุ่มรั้งท้ายอีก 5 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ส่วนมหาวิทยาลัยในเอเซียที่ถูกจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก ได้แก่ มหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อยู่อันดับ 1 ของเอเซีย และอันดับ 23 ของโลก ส่วนมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ อยู่อันดับที่ 2 ของเอเซีย และอันดับที่ 25 ของโลก
สำหรับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกครั้งนี้ ไทม์ใช้ตัวชี้วัด โดยพิจารณาจาก สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนการสอน ผลงานวิจัย ภาพลักษณ์ระหว่างประเทศในจำนวนสัดส่วนนักเรียน-อาจารย์ การร่วมมือกับสถาบันการศึกษาต่างประเทศ และผลงานวิจัยที่นำไปสู่การสร้างนวัตกรรมในระดับอุตสาหกรรม