นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล ตำบลละ 5 ล้านบาท 7,255 ตำบล ว่า เบื้องต้นสำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณให้กระทรวงมหาดไทยแล้วในกรอบวงเงิน 37,913 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้ได้อนุมัติกรอบวงเงิน 36,275 ล้านบาท โดยได้เพิ่มกรอบวงเงินอีก 1,638 ล้านบาท ให้โครงการที่ไม่เข้าข่ายหลักเกณฑ์ ที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ 11 ข้อ สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณา คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้เสนอ อาทิ การสร้างรายได้ให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ต้องเป็นโครงการตำบลละ 1 ล้านบาท ต้องไม่เป็นโครงการที่มีความซ้ำซ้อน การบริหารจัดการน้ำ และการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ทั้งนี้ สำนักงบประมาณ ได้จัดสรรงบประมาณโครงการดังกล่าวแล้วกว่า 36,000 ล้านบาท แต่จากการตรวจสอบรายละเอียดของโครงการพบว่า บางโครงการมีความซ้ำซ้อน
ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวด้วยว่า หากจำเป็นต้องเพิ่มกรอบวงเงิน กระทรวงมหาดไทย ได้จัดสรรงบกลางเงินสำรองจ่าย ให้จังหวัดเป็นผู้เบิกจ่ายตามจำนวนตำบลที่มีอยู่ในแต่ละจังหวัด และสำนักจัดทำงบประมาณเขตพื้นที่ทั้ง 18 เขต จะเป็นผู้พิจารณารายละเอียดโครงการฯ โดยมีคณะกรรมการกลั่นกรองระดับจังหวัด เสนอรายละเอียด ซึ่งทั้ง 3 มาตราการ ต้องเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 และประเมินว่าทั้ง 3 มาตราการ จะทำให้จีดีพีประเทศเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 1 และช่วยให้เศรษฐกิจปี 2558 ขยายตัวได้ตามเป้าไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3
ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวด้วยว่า หากจำเป็นต้องเพิ่มกรอบวงเงิน กระทรวงมหาดไทย ได้จัดสรรงบกลางเงินสำรองจ่าย ให้จังหวัดเป็นผู้เบิกจ่ายตามจำนวนตำบลที่มีอยู่ในแต่ละจังหวัด และสำนักจัดทำงบประมาณเขตพื้นที่ทั้ง 18 เขต จะเป็นผู้พิจารณารายละเอียดโครงการฯ โดยมีคณะกรรมการกลั่นกรองระดับจังหวัด เสนอรายละเอียด ซึ่งทั้ง 3 มาตราการ ต้องเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 และประเมินว่าทั้ง 3 มาตราการ จะทำให้จีดีพีประเทศเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 1 และช่วยให้เศรษฐกิจปี 2558 ขยายตัวได้ตามเป้าไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3