จากกรณีที่เว็บไซต์ www.mict.go.th ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรือกระทรวงไอซีที ถูกโจมตีจากผู้คัดค้านโครงการ ซิงเกิล เกตเวย์ อย่างต่อเนื่อง จนทำให้เว็บไซต์กระทรวงไอซีทีระบบล่ม ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ (30 ก.ย.) ซึ่งคาดว่าเกิดจากโจมตีของชาวเน็ตที่นัดรวมตัวกันผ่านการส่งต่อข้อความในโลกออนไลน์โดยมีการเข้ามาใช้งานเว็บไซต์พร้อมกันในช่วงเวลาเดียวกัน จนทำให้เว็บไซต์ของกระทรวงไอซีทีเข้าใช้งานไม่ได้ตามปกติเป็นเวลาหลายชั่วโมง
นอกจากนี้เว็บไซต์อื่นๆ เช่น บริษัท กสท โทรคมนาคม หรือ CAT ระบบล่ม ไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาได้เช่นเดียวกับเว็บไซต์ของกระทรวงไอซีที ต่อมาเว็บไซต์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. ที่มีการนัดหมายว่าจะเริ่มโจมตีในเวลา 21.30 น. แต่ยังไม่ถึงเวลานัด กลับพบว่าเว็บไซต์ของ กอ.รมน. ไม่สามารถเข้าชมได้ ล่มตามไปเป็นเว็บที่ 3 ตามมาด้วยเว็บไซต์ของ สำนักนายกรัฐมนตรี ระบบล่มประมาณ 22.15 น. รวมไปถึงเว็บไซต์ บริษัท ทีโอที จำกัด และกระทรวงการคลัง ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้เช่นกัน
ล่าสุดเวลาประมาณ 23.00 น.เว็บไซต์ของกระทรวงไอซีที และหน่วยงานอื่นๆ ทะยอยเปิดเข้าใช้งานได้อย่างช้าๆ ก่อนจะเข้าสู่ภาวะปกติ
ขณะที่กระแสในโลกโซเชียลในการแสดงความคิดเห็นคัดค้านโครงการ ซิงเกิล เกตเวย์ เป็นไปอย่างร้อนแรง โดยผู้ใช้งานทวิตเตอร์ได้พร้อมใจกันทวิตข้อความ และติดแฮชแท็ก #SingleGateway รวมแล้วกว่า 5 หมื่นข้อความ จนขึ้นเป็นเทรนด์อันดับต้นๆ ของทวิตเตอร์ประเทศไทย และขึ้นเป็นอันดับ 8 ในเทรนด์โลก เมื่อเวลา 21.00 น. นอกจากนี้จำนวนผู้เข้าร่วมลงชื่อคัดค้านในเว็บไซต์ change.org มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิน 1 แสนรายชื่อไปแล้ว
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้เปิดเผยว่า การโจมตีเว็บไซต์ใดๆ มีความผิดตาม พรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ในมาตรา 10 ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยยืนยันว่า จากเครื่องมือและเทคโนโลยีที่มีอยู่ เจ้าหน้าที่รัฐสามารถตรวจสอบย้อนหลังไปถึงผู้ที่ใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตโจมตีเว็บไซต์ของรัฐได้ทุกคน
นอกจากนี้เว็บไซต์อื่นๆ เช่น บริษัท กสท โทรคมนาคม หรือ CAT ระบบล่ม ไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาได้เช่นเดียวกับเว็บไซต์ของกระทรวงไอซีที ต่อมาเว็บไซต์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. ที่มีการนัดหมายว่าจะเริ่มโจมตีในเวลา 21.30 น. แต่ยังไม่ถึงเวลานัด กลับพบว่าเว็บไซต์ของ กอ.รมน. ไม่สามารถเข้าชมได้ ล่มตามไปเป็นเว็บที่ 3 ตามมาด้วยเว็บไซต์ของ สำนักนายกรัฐมนตรี ระบบล่มประมาณ 22.15 น. รวมไปถึงเว็บไซต์ บริษัท ทีโอที จำกัด และกระทรวงการคลัง ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้เช่นกัน
ล่าสุดเวลาประมาณ 23.00 น.เว็บไซต์ของกระทรวงไอซีที และหน่วยงานอื่นๆ ทะยอยเปิดเข้าใช้งานได้อย่างช้าๆ ก่อนจะเข้าสู่ภาวะปกติ
ขณะที่กระแสในโลกโซเชียลในการแสดงความคิดเห็นคัดค้านโครงการ ซิงเกิล เกตเวย์ เป็นไปอย่างร้อนแรง โดยผู้ใช้งานทวิตเตอร์ได้พร้อมใจกันทวิตข้อความ และติดแฮชแท็ก #SingleGateway รวมแล้วกว่า 5 หมื่นข้อความ จนขึ้นเป็นเทรนด์อันดับต้นๆ ของทวิตเตอร์ประเทศไทย และขึ้นเป็นอันดับ 8 ในเทรนด์โลก เมื่อเวลา 21.00 น. นอกจากนี้จำนวนผู้เข้าร่วมลงชื่อคัดค้านในเว็บไซต์ change.org มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิน 1 แสนรายชื่อไปแล้ว
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้เปิดเผยว่า การโจมตีเว็บไซต์ใดๆ มีความผิดตาม พรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ในมาตรา 10 ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยยืนยันว่า จากเครื่องมือและเทคโนโลยีที่มีอยู่ เจ้าหน้าที่รัฐสามารถตรวจสอบย้อนหลังไปถึงผู้ที่ใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตโจมตีเว็บไซต์ของรัฐได้ทุกคน