เมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายคีรีรัก สมณะบารมี หรือ “มิตร มิตรชัย” อายุ 21 ปี พระเอกลิเกหนุ่ม น้องชายคนเล็กของ นายเสมา สมบูรณ์ หรือไชยา มิตรชัย และ น.ส.ปรียา สมณะบารมี หรือแอน มิตรชัย นักร้องนักแสดงชื่อดัง พร้อมด้วย นางวงเดือน สมบูรณ์ มารดา เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศิริเจริญนำ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อขอคำปรึกษาข้อกฎหมาย เกี่ยวกับกรณีที่ถูกนายตำรวจรายหนึ่ง ข่มขู่กรรโชกทรัพย์
ทั้งนี้เนื่องจากกรณีที่ แอน มิตรชัย ถูกตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกับตำรวจ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เข้าตรวจค้นและยึดรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า เวลไฟร์ ทะเบียนป้ายแดง ณ 6601 กทม. ขณะกำลังเดินทางไปโชว์ตัวที่งานแห่งหนึ่ง ซึ่งปรากฏเป็นข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้
นายคีรีรัก กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดน่าจะสืบเนื่องมาจากที่ก่อนหน้านี้ ตนได้คบหาดูใจกับสาวใหญ่คนหนึ่ง ซึ่งทราบภายหลังว่าหญิงสาวคนสนิทของนายตำรวจท่านหนึ่ง ตนจึงพยายามตีตัวออกห่าง แต่นายตำรวจคนดังกล่าวทราบเรื่องและเกิดความไม่พอใจ จึงนัดหมายให้มาพบเพื่อเจรจาปัญหาความสัมพันธ์เชิงชู้สาวที่เกิดขึ้น ที่ร้านชลบุรีซีฟู้ด ซอยวิภาวดี 62 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม.เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา
แต่ระหว่างการเจรจา นายตำรวจรายนี้กลับพูดจาข่มขู่และห้ามไม่ให้ตนยุ่งเกี่ยวกับสาวใหญ่รายนี้อีก นอกจากนี้ ยังขู่บังคับให้เซ็นยอมรับสภาพหนี้ก้อนโตถึง 35 ล้านบาท หากไม่ยินยอมจะเปิดโปงความสัมพันธ์ของตน รวมทั้งขู่ว่าจะส่งคนไปทำร้ายบุคคลในครอบครัวด้วย ทำให้ตนรู้สึกหวาดกลัวและจำยอมเซ็นรับสภาพหนี้ยอดดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยของตนและคนในครอบครัว
นายคีรีรัก กล่าวต่อว่า สำหรับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า เวลไฟร์ คันที่พี่สาวคือ แอน มิตรชัย นำไปใช้งาน แล้วถูกตำรวจเข้าตรวจยึดเมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา นั้น เป็นรถที่ตนได้รับมาจากสาวใหญ่เพื่อสาวคนสนิทของนายตำรวจคู่กรณี ซึ่งไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นรถที่หลบเลี่ยงภาษี และได้นำเรื่องทั้งหมดมาปรึกษากับทางตำรวจ บก.ป.และลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยได้รับคำแนะนำให้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจท้องที่เกิดเหตุเนื่องจากกรณีดังกล่าวน่าจะเป็นโมฆะ หรือหากประสงค์จะดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยนั้น ก็ให้ปรึกษากับทนายความเสียก่อน
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกเหนือจากนายคีรีรัก และนางวงเดือน ที่เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป.ในครั้งนี้แล้ว ทาง น.ส.ปรียา หรือ แอน มิตรชัย ก็เดินทางมาด้วย แต่เมื่อพบผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวอยู่บริเวณบันไดทางขึ้นอาคาร บก.ป.นักแสดงสาวคนดัง จึงรีบเดินกลับขึ้นรถทันทีโดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพได้
ทั้งนี้เนื่องจากกรณีที่ แอน มิตรชัย ถูกตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกับตำรวจ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เข้าตรวจค้นและยึดรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า เวลไฟร์ ทะเบียนป้ายแดง ณ 6601 กทม. ขณะกำลังเดินทางไปโชว์ตัวที่งานแห่งหนึ่ง ซึ่งปรากฏเป็นข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้
นายคีรีรัก กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดน่าจะสืบเนื่องมาจากที่ก่อนหน้านี้ ตนได้คบหาดูใจกับสาวใหญ่คนหนึ่ง ซึ่งทราบภายหลังว่าหญิงสาวคนสนิทของนายตำรวจท่านหนึ่ง ตนจึงพยายามตีตัวออกห่าง แต่นายตำรวจคนดังกล่าวทราบเรื่องและเกิดความไม่พอใจ จึงนัดหมายให้มาพบเพื่อเจรจาปัญหาความสัมพันธ์เชิงชู้สาวที่เกิดขึ้น ที่ร้านชลบุรีซีฟู้ด ซอยวิภาวดี 62 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม.เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา
แต่ระหว่างการเจรจา นายตำรวจรายนี้กลับพูดจาข่มขู่และห้ามไม่ให้ตนยุ่งเกี่ยวกับสาวใหญ่รายนี้อีก นอกจากนี้ ยังขู่บังคับให้เซ็นยอมรับสภาพหนี้ก้อนโตถึง 35 ล้านบาท หากไม่ยินยอมจะเปิดโปงความสัมพันธ์ของตน รวมทั้งขู่ว่าจะส่งคนไปทำร้ายบุคคลในครอบครัวด้วย ทำให้ตนรู้สึกหวาดกลัวและจำยอมเซ็นรับสภาพหนี้ยอดดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยของตนและคนในครอบครัว
นายคีรีรัก กล่าวต่อว่า สำหรับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า เวลไฟร์ คันที่พี่สาวคือ แอน มิตรชัย นำไปใช้งาน แล้วถูกตำรวจเข้าตรวจยึดเมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา นั้น เป็นรถที่ตนได้รับมาจากสาวใหญ่เพื่อสาวคนสนิทของนายตำรวจคู่กรณี ซึ่งไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นรถที่หลบเลี่ยงภาษี และได้นำเรื่องทั้งหมดมาปรึกษากับทางตำรวจ บก.ป.และลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยได้รับคำแนะนำให้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจท้องที่เกิดเหตุเนื่องจากกรณีดังกล่าวน่าจะเป็นโมฆะ หรือหากประสงค์จะดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยนั้น ก็ให้ปรึกษากับทนายความเสียก่อน
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกเหนือจากนายคีรีรัก และนางวงเดือน ที่เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป.ในครั้งนี้แล้ว ทาง น.ส.ปรียา หรือ แอน มิตรชัย ก็เดินทางมาด้วย แต่เมื่อพบผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวอยู่บริเวณบันไดทางขึ้นอาคาร บก.ป.นักแสดงสาวคนดัง จึงรีบเดินกลับขึ้นรถทันทีโดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพได้