วันนี้ (28 ก.ย.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 239/2557-2558 เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเปิดเวทีเสวนาเพื่อรับฟัง ความคิดเห็นในเรื่อง "ม.33 ให้สิทธิคนพิการจ้างงานแค่ไหน" ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนมุมมองจากตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน เครือข่ายคนพิการ และผู้ประกอบการ โดยเปิดเผยสถิติคนพิการตกงานที่มีกว่า 300,000 คน ทั่วประเทศ ซึ่งจะมีความร่วมมือกับภาคเอกชนในการสร้างโอกาสในการทำงานสำหรับคนพิการ และส่งเสริมให้คนพิการมีความอิสระในการทำงานที่บ้านในชุมชนของตนเอง
ทั้งนี้ ตนได้กำชับให้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ดำเนินการขับเคลื่อนการสร้างโอกาสในการทำงานสำหรับคนพิการในภาพรวมของประเทศ โดยเฉพาะการจ้างงานคนพิการในหน่วยงานภาครัฐ อีกทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานภาคเอกชนอย่างเป็นระบบและครบวงจรในการแก้ปัญหาคนพิการว่างงานในระยะยาว โดยเฉพาะการสร้างงานให้คนพิการสามารถทำงานได้ที่บ้าน โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางออกมาทำงานข้างนอก
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเปิดเวทีเสวนาเพื่อรับฟัง ความคิดเห็นในเรื่อง "ม.33 ให้สิทธิคนพิการจ้างงานแค่ไหน" ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนมุมมองจากตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน เครือข่ายคนพิการ และผู้ประกอบการ โดยเปิดเผยสถิติคนพิการตกงานที่มีกว่า 300,000 คน ทั่วประเทศ ซึ่งจะมีความร่วมมือกับภาคเอกชนในการสร้างโอกาสในการทำงานสำหรับคนพิการ และส่งเสริมให้คนพิการมีความอิสระในการทำงานที่บ้านในชุมชนของตนเอง
ทั้งนี้ ตนได้กำชับให้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ดำเนินการขับเคลื่อนการสร้างโอกาสในการทำงานสำหรับคนพิการในภาพรวมของประเทศ โดยเฉพาะการจ้างงานคนพิการในหน่วยงานภาครัฐ อีกทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานภาคเอกชนอย่างเป็นระบบและครบวงจรในการแก้ปัญหาคนพิการว่างงานในระยะยาว โดยเฉพาะการสร้างงานให้คนพิการสามารถทำงานได้ที่บ้าน โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางออกมาทำงานข้างนอก