นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนากองทุนบำเน็จบำนาญ (กบข.) ประจำปี 2558 ว่า ขณะนี้รัฐบาลต้องใช้เงินอุดหนุนกองทุนต่างๆ ที่ดูแลการใช้ชีวิตหลังเกษียณปีละกว่า 3 แสนล้านบาท หรือร้อยละ 2 - 3 ของรายได้ประชาชาติ (GDP) จึงเป็นโจทย์ให้รัฐบาลต้องวางแผนรองรับการขยายตัวของงบประมาณส่วนนี้ในอนาคต โดยการวางกรอบวินัยทางการออม เพื่อให้ครอบคลุม เพียงพอ และยั่งยืน ปัจจุบันกองทุนการออมต่างๆ ครอบคลุมครบทุกด้านแล้ว ซึ่งการจูงใจให้ประชาชนออมในกองทุนต่างๆ เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากเป็นการเก็บออมเงินไว้ใช้หลังวัยทำงานแล้ว ยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประเทศอีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ออกมาตรการจูงใจ เพื่อสนับสนุนการออมทั้งการส่งเงินสมทบ และการลดหย่อนทางภาษี ให้ภาคเอกชนที่สนับสนุนการออม ด้านกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ขณะนี้มีสมาชิกประมาณ 3 แสนราย เชื่อว่าหากกฏหมายแก้ไขอายุผู้เข้าร่วมกองทุน 60 ปีขึ้นไปประกาศใช้ จะทำให้มีผู้สมัครเข้ากองทุนเพิ่มขึ้นอีกมาก
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยังกล่าวถึงการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2559 ว่าจะทำได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา จากการแก้ไขข้อจำกัดต่างๆ โดยในปีงบประมาณ 2559 หากโครงการหน่วยงานใดประเมินแล้วมีความล่าช้า ช่วงไตรมาสที่ 3 จะใช้พระราชบัญญัติโอนเงินงบประมาณกลับเข้าสู่งบกลาง เพื่อนำไปใช้พัฒนาส่วนอื่นๆ ต่อไป
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ออกมาตรการจูงใจ เพื่อสนับสนุนการออมทั้งการส่งเงินสมทบ และการลดหย่อนทางภาษี ให้ภาคเอกชนที่สนับสนุนการออม ด้านกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ขณะนี้มีสมาชิกประมาณ 3 แสนราย เชื่อว่าหากกฏหมายแก้ไขอายุผู้เข้าร่วมกองทุน 60 ปีขึ้นไปประกาศใช้ จะทำให้มีผู้สมัครเข้ากองทุนเพิ่มขึ้นอีกมาก
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยังกล่าวถึงการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2559 ว่าจะทำได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา จากการแก้ไขข้อจำกัดต่างๆ โดยในปีงบประมาณ 2559 หากโครงการหน่วยงานใดประเมินแล้วมีความล่าช้า ช่วงไตรมาสที่ 3 จะใช้พระราชบัญญัติโอนเงินงบประมาณกลับเข้าสู่งบกลาง เพื่อนำไปใช้พัฒนาส่วนอื่นๆ ต่อไป