จากกรณี น.ส.ฟ้า (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี แอร์โฮสเตสสายการบินแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.ไพฑูรย์ จ้อยสระคูพนักงานสอบสวน กก.1.บก.ป. เพื่อให้ดำเนินคดีกับอดีตคู่สมรส ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารบริษัทการบินไทย และปัจจุบันเป็นกัปตันสายการบิน นำเอกสารใบทะเบียนหย่าปลอมมาแสดง เพื่อให้หลงเชื่อแต่งงานด้วย ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงมานานกว่า 3 ปี ต่อมาภายหลังได้ขอแยกทาง และฟ้องร้อง จนเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ทำให้รู้สึกว่าถูกคุกคาม และอันตรายต่อชีวิต ประกอบกับคดีความที่ได้ดำเนินการฟ้องร้องไม่มี ความคืบหน้า จึงได้เดินทางมาร้องทุกข์ที่ กองบังคับการปราบปราม
พ.ต.อ.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พงส.ผทค.กก.1บก.ป. เปิดเผยว่า หลังจากผู้เสียหายได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ กับทางพนักงานสอบสวน กก.1บก.ป.นั้น ในเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหาย โดยหลังจากนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคำให้การ รวมทั้งเอกสารที่ทางผู้เสียหายได้นำมามอบให้ไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาว่าเข้าข่ายการกระทำความผิด ในส่วนการปลอมแปลงเอกสารหรือไม่ รวมทั้งเข้าข่ายการฉ้อโกง หรือความผิดอื่นๆ อีกทั้งผู้บังคับบัญชาพิจารณาว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในเขตอำนาจของกองบังคับการปราบปรามที่จะดำเนินการหรือไม่ หรือว่าเป็นส่วนที่จะต้องให้ทางท้องที่ดำเนินการ โดยคาดว่า 3-4วันจะแล้วเสร็จ
พ.ต.อ.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พงส.ผทค.กก.1บก.ป. เปิดเผยว่า หลังจากผู้เสียหายได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ กับทางพนักงานสอบสวน กก.1บก.ป.นั้น ในเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหาย โดยหลังจากนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคำให้การ รวมทั้งเอกสารที่ทางผู้เสียหายได้นำมามอบให้ไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาว่าเข้าข่ายการกระทำความผิด ในส่วนการปลอมแปลงเอกสารหรือไม่ รวมทั้งเข้าข่ายการฉ้อโกง หรือความผิดอื่นๆ อีกทั้งผู้บังคับบัญชาพิจารณาว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในเขตอำนาจของกองบังคับการปราบปรามที่จะดำเนินการหรือไม่ หรือว่าเป็นส่วนที่จะต้องให้ทางท้องที่ดำเนินการ โดยคาดว่า 3-4วันจะแล้วเสร็จ