นายชูชาติ อินสว่าง สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) สุพรรณบุรี เปิดเผยถึงกระแสการโหวตรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญของสปช.ในวันที่ 6 ก.ย. ว่า ตลอดการเป็นสมาชิกสปช.มาตลอด 10 เดือน สปช.ทั้งหมดมีส่วนร่วมในกระบวนการของการร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งคัดเลือกบุคคลเข้าไปเป็นคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ ตลอดจนเสนอคำขอแก้ไข แม้ที่สุดแล้วจะไม่ได้ตามที่ต้องการทั้งหมด แต่ตนก็รับได้ และพร้อมจะโหวตเห็นชอบให้ ทั้งที่ตนเชื่อว่า ผลของการโหวตสปช.จะออกมาไม่รับร่างรัฐธรรมนูญตามกระแสข่าวจริง เพราะตนยึดมั่นในเหตุผลของตนเอง ไม่ทำตามใคร ไม่ใช่นักการเมืองน้ำเน่า ที่จะต้องเลือกข้างผู้ชนะเท่านั้น
นายชูชาติ กล่าวอีกว่า รู้สึกดีใจที่เห็นว่า คะแนนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้สูงถึง 147 เสียงแล้ว เนื่องจากตนคิดว่า ผลแพ้ชนะกันควรจะทิ้งกันให้ขาดเพื่อความชัดเจน มิให้มีการมากล่าวโทษกันภายหลังว่าทำไมไม่ลงคะแนนแบบนี้ถ้าหากผลออกมาสูสีกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร พวกเราสมาชิกสปช.ก็ยังคงเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกัน ต่อไป เราต้องปรองดองกัน ทั้งนี้ ส่วนตัวก็พร้อมจะรับงานสานต่อการปฏิรูป หากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเห็นประโยชน์ของตน ที่มีพร้อมทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ และประสบการณ์
ด้านนายสิระ เจนจาคะ สมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.) กล่าวว่า ในขณะนี้มีการล็อบบี้ให้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญอย่างที่เป็นข่าวจริง โดยมีเก้าอี้สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเป็นขนมแลกเปลี่ยน โดยผู้ที่ออกมาล็อบบี้ก็คือ สปช. 2 คน ซึ่งอ้างว่าเป็นคำสั่งจากผู้ใหญ่ แต่ทางผู้ใหญ่ก็ปฏิเสธไปแล้ว ตนจึงไม่เข้าใจว่าทำไม สปช.ที่เหลืออีก 245 คนถึงจะไปหลงเชื่อคนเพียงแค่ 2 คน ทั้งที่รัฐธรรมนูญถือเป็นกฎหมายที่สำคัญที่สุดของประเทศ สปช.ที่เข้ามาทำหน้าที่ถือว่าได้รับเกียรติที่มาทำหน้าที่ตรงนี้ แต่เรากลับไม่เห็นถึงศักดิ์ศรีของตัวเอง ที่จะได้ทำประโยชน์ให้กลับประเทศชาติ กลับไปเห็นแต่ประโยชน์ว่าตัวเองจะได้รับอะไรตอบแทน กลัวจะตกงาน ไม่มีตำแหน่ง ไม่มีหัวโขน ถ้าคนทั้งประเทศคิดแบบนี้หมด ประเทศไทยคงไม่ต้องก้าวไปไหนกันแล้ว
"ถ้าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกคว่ำจริง ขอเรียกร้องให้ สปช.247 คนคืนเงินเดือนและเบี้ยประชุมที่ได้รับมาระหว่างดำรงตำแหน่งให้แก่หลวงทั้งหมด เพราะเงินตรงนี้คือภาษีของประชาชน และจะได้นำไปให้กับคณะทำงานชุดใหม่ที่จะเข้ามาเขียนรัฐธรรมนูญชุดต่อไป อยากจะฝากไปถึงเพื่อนๆ สปช.เป็นครั้งสุดท้ายว่า ขอให้การตัดสินใจโดยที่คำนึงถึงประเทศชาติเป็นหลักสำคัญ ประชาชนกำลังจะได้รับสิ่งดีๆ ขอให้พวกเขาได้ตัดสินใจ และแสดงออกทางความคิดบ้าง อย่าไปคิดแทนประชาชนว่าประเทศจะเกิดความวุ่นวาย หรือความขัดแย้ง เพราะร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีประโยชน์กับประชาชน แต่มีโทษกับนักการเมือง แล้ว สปช.จะไปปกป้องนักการเมืองเลวๆ เหล่านั้นเพื่ออะไร” นายสิระ กล่าว
ทั้งนี้เสียงโหวตของ สปช.ที่จะรับ หรือ ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญจะต้องได้เสียง 124 เสียงขึ้นไปจากสมาชิก 247 คน
นายชูชาติ กล่าวอีกว่า รู้สึกดีใจที่เห็นว่า คะแนนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้สูงถึง 147 เสียงแล้ว เนื่องจากตนคิดว่า ผลแพ้ชนะกันควรจะทิ้งกันให้ขาดเพื่อความชัดเจน มิให้มีการมากล่าวโทษกันภายหลังว่าทำไมไม่ลงคะแนนแบบนี้ถ้าหากผลออกมาสูสีกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร พวกเราสมาชิกสปช.ก็ยังคงเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกัน ต่อไป เราต้องปรองดองกัน ทั้งนี้ ส่วนตัวก็พร้อมจะรับงานสานต่อการปฏิรูป หากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเห็นประโยชน์ของตน ที่มีพร้อมทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ และประสบการณ์
ด้านนายสิระ เจนจาคะ สมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.) กล่าวว่า ในขณะนี้มีการล็อบบี้ให้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญอย่างที่เป็นข่าวจริง โดยมีเก้าอี้สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเป็นขนมแลกเปลี่ยน โดยผู้ที่ออกมาล็อบบี้ก็คือ สปช. 2 คน ซึ่งอ้างว่าเป็นคำสั่งจากผู้ใหญ่ แต่ทางผู้ใหญ่ก็ปฏิเสธไปแล้ว ตนจึงไม่เข้าใจว่าทำไม สปช.ที่เหลืออีก 245 คนถึงจะไปหลงเชื่อคนเพียงแค่ 2 คน ทั้งที่รัฐธรรมนูญถือเป็นกฎหมายที่สำคัญที่สุดของประเทศ สปช.ที่เข้ามาทำหน้าที่ถือว่าได้รับเกียรติที่มาทำหน้าที่ตรงนี้ แต่เรากลับไม่เห็นถึงศักดิ์ศรีของตัวเอง ที่จะได้ทำประโยชน์ให้กลับประเทศชาติ กลับไปเห็นแต่ประโยชน์ว่าตัวเองจะได้รับอะไรตอบแทน กลัวจะตกงาน ไม่มีตำแหน่ง ไม่มีหัวโขน ถ้าคนทั้งประเทศคิดแบบนี้หมด ประเทศไทยคงไม่ต้องก้าวไปไหนกันแล้ว
"ถ้าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกคว่ำจริง ขอเรียกร้องให้ สปช.247 คนคืนเงินเดือนและเบี้ยประชุมที่ได้รับมาระหว่างดำรงตำแหน่งให้แก่หลวงทั้งหมด เพราะเงินตรงนี้คือภาษีของประชาชน และจะได้นำไปให้กับคณะทำงานชุดใหม่ที่จะเข้ามาเขียนรัฐธรรมนูญชุดต่อไป อยากจะฝากไปถึงเพื่อนๆ สปช.เป็นครั้งสุดท้ายว่า ขอให้การตัดสินใจโดยที่คำนึงถึงประเทศชาติเป็นหลักสำคัญ ประชาชนกำลังจะได้รับสิ่งดีๆ ขอให้พวกเขาได้ตัดสินใจ และแสดงออกทางความคิดบ้าง อย่าไปคิดแทนประชาชนว่าประเทศจะเกิดความวุ่นวาย หรือความขัดแย้ง เพราะร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีประโยชน์กับประชาชน แต่มีโทษกับนักการเมือง แล้ว สปช.จะไปปกป้องนักการเมืองเลวๆ เหล่านั้นเพื่ออะไร” นายสิระ กล่าว
ทั้งนี้เสียงโหวตของ สปช.ที่จะรับ หรือ ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญจะต้องได้เสียง 124 เสียงขึ้นไปจากสมาชิก 247 คน