เมื่อเวลา 04.50 น. วันที่ 3 ก.ย. พ.ต.ท.มานิต จันทร์สิทธิ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.วิภาวดี กรุงเทพฯ รับแจ้งอุบัติเหตุ รถทัวร์โดยสารพลิกคว่ำ และมีรถชนกันซ้ำซ้อน รวม 3 คัน มีผู้บาดเจ็บหลายราย บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ขาเข้า ในช่องทางด่วน หน้าปั๊มน้ำมันปตท. เขตหลักสี่ รุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่จราจร สน.วิภาวดี และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุก่อนถึงแยกหลักสี่ ประมาณ 300 เมตร ในช่องทางด่วน พบรถชนกัน 3 คัน คันแรกเป็นรถร่วม บขส. ปรับอากาศชั้น 2 ของบริษัทราชสีมาทัวร์ เลขข้างรถ 21-90 ทะเบียน 10-4121 นครราชสีมา วิ่งระหว่างนครราชสีมา - กรุงเทพฯ มีนายภาสกร ขัดโท เป็นพนักงานขับรถ สภาพรถพลิกตะแคง กระจกรถแตกรอบคัน ด้านหน้ารถพังยุบเข้ามาถึงที่นั่งคนขับ มีน้ำมันไหลกระจายทั่วพื้นที่ กีดขวาง 3 ช่องทางขวา ภายในมีผู้โดยสารบาดเจ็บ 17 ราย
คันที่ 2 เป็นรถทัวร์ บริษัทลิกไนท์ทัวร์ ทะเบียน 15-6878 เชียงใหม่ วิ่งระหว่าง เชียงใหม่ - กรุงเทพฯ ไม่มีผู้บาดเจ็บ สภาพด้านหน้ารถข้างคนขับยุบตัวเล็กน้อยชนท้ายคันแรก และคันสุดท้าย เป็นรถตู้ส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ฮต 4555 กรุงเทพมหานคร ชนท้ายคันที่ 2 เสียหายบริเวณกันชนด้านหน้า ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นมีเพียงผู้บาดเจ็บจากรถ บขส. คันแรก รวม 17 ราย นำส่ง รพ.วิภาวดี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดการจราจร ในช่องทางด่วน 3 ช่องด้านขวา เหลือช่องทางซ้าย 1 ช่อง ให้รถในช่องทางด่วนสามารถวิ่งผ่านไปได้ และให้ผู้ใช้เส้นทางเลี่ยงไปใช้ช่องทางคู่ขนานแทน ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากเป็นช่วงเช้ามืด แต่ก็เริ่มมีผู้ใช้เส้นทางนำรถออกมาสัญจร มีท้ายแถวสะสมถึงท่าอากาศยานดอนเมือง ก่อนจะให้รถคันที่ 2 และคันที่ 3 ที่ไม่เสียหายมาก ขับถอยเคลื่อนย้ายออกไปเอง ส่วนรถทัวร์คันแรกที่พลิกตะแคงกีดขวางการจราจร เจ้าหน้าที่นำรถยก 2 คัน มาเคลื่อนย้ายออกไป ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ก่อนเปิดการจราจรตามปกติ แต่ส่งผลทำให้การจราจรติดขัด รถติดสะสมยาวเหยียดทั้งถนนพื้นราบและบนทางด่วนโทลล์เวย์
นายภัตรายุทธ สุธรรม อายุ 24 ปี ผู้โดยสารที่มากับรถทัวร์คันแรก ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่นอนหลับอยู่ในรถ มารู้สึกตัวเมื่อมีเสียงดังสนั่น และแรงกระแทก ก่อนที่รถจะพลิกตะแคง จากนั้นตนพยายามหาทางออกมาจากรถทัวร์ทั้งที่ยังมีอาการมึนงง กระทั่งมีเจ้าหน้าที่มาช่วยนำออกจากรถ และปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งมีผู้โดยสารนั่งอยู่ในรถหลายคน
ขณะที่ พ.ต.ท.มานิต กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีรถบรรทุก 6 ล้อ ขับอยู่ข้างหน้ารถทัวร์คันแรก ก่อนที่รถบรรทุกจะขับเบี่ยงมาทางช่องซ้าย ทำให้รถทัวร์หักหลบกะทันหัน จนเสียหลักชนกับแท่งปูนขอบทาง และพลิกตะแคงขวางถนน จากนั้นรถคันที่ 2 และคันที่ 3 ตามมาชนท้าย โดยมีผู้บาดเจ็บในรถทัวร์คันแรกหลายราย ซึ่งบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนข้อหาความผิดเข้าข่าย ความผิดฐาน "ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ" แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับผู้ใด ต้องสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์รวมทั้งคนขับรถทัวร์คันแรกที่พักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล รวมทั้งพยานรายอื่นๆ ก่อนที่จะดำเนินคดีต่อไป
ที่เกิดเหตุก่อนถึงแยกหลักสี่ ประมาณ 300 เมตร ในช่องทางด่วน พบรถชนกัน 3 คัน คันแรกเป็นรถร่วม บขส. ปรับอากาศชั้น 2 ของบริษัทราชสีมาทัวร์ เลขข้างรถ 21-90 ทะเบียน 10-4121 นครราชสีมา วิ่งระหว่างนครราชสีมา - กรุงเทพฯ มีนายภาสกร ขัดโท เป็นพนักงานขับรถ สภาพรถพลิกตะแคง กระจกรถแตกรอบคัน ด้านหน้ารถพังยุบเข้ามาถึงที่นั่งคนขับ มีน้ำมันไหลกระจายทั่วพื้นที่ กีดขวาง 3 ช่องทางขวา ภายในมีผู้โดยสารบาดเจ็บ 17 ราย
คันที่ 2 เป็นรถทัวร์ บริษัทลิกไนท์ทัวร์ ทะเบียน 15-6878 เชียงใหม่ วิ่งระหว่าง เชียงใหม่ - กรุงเทพฯ ไม่มีผู้บาดเจ็บ สภาพด้านหน้ารถข้างคนขับยุบตัวเล็กน้อยชนท้ายคันแรก และคันสุดท้าย เป็นรถตู้ส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ฮต 4555 กรุงเทพมหานคร ชนท้ายคันที่ 2 เสียหายบริเวณกันชนด้านหน้า ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นมีเพียงผู้บาดเจ็บจากรถ บขส. คันแรก รวม 17 ราย นำส่ง รพ.วิภาวดี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดการจราจร ในช่องทางด่วน 3 ช่องด้านขวา เหลือช่องทางซ้าย 1 ช่อง ให้รถในช่องทางด่วนสามารถวิ่งผ่านไปได้ และให้ผู้ใช้เส้นทางเลี่ยงไปใช้ช่องทางคู่ขนานแทน ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากเป็นช่วงเช้ามืด แต่ก็เริ่มมีผู้ใช้เส้นทางนำรถออกมาสัญจร มีท้ายแถวสะสมถึงท่าอากาศยานดอนเมือง ก่อนจะให้รถคันที่ 2 และคันที่ 3 ที่ไม่เสียหายมาก ขับถอยเคลื่อนย้ายออกไปเอง ส่วนรถทัวร์คันแรกที่พลิกตะแคงกีดขวางการจราจร เจ้าหน้าที่นำรถยก 2 คัน มาเคลื่อนย้ายออกไป ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ก่อนเปิดการจราจรตามปกติ แต่ส่งผลทำให้การจราจรติดขัด รถติดสะสมยาวเหยียดทั้งถนนพื้นราบและบนทางด่วนโทลล์เวย์
นายภัตรายุทธ สุธรรม อายุ 24 ปี ผู้โดยสารที่มากับรถทัวร์คันแรก ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่นอนหลับอยู่ในรถ มารู้สึกตัวเมื่อมีเสียงดังสนั่น และแรงกระแทก ก่อนที่รถจะพลิกตะแคง จากนั้นตนพยายามหาทางออกมาจากรถทัวร์ทั้งที่ยังมีอาการมึนงง กระทั่งมีเจ้าหน้าที่มาช่วยนำออกจากรถ และปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งมีผู้โดยสารนั่งอยู่ในรถหลายคน
ขณะที่ พ.ต.ท.มานิต กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีรถบรรทุก 6 ล้อ ขับอยู่ข้างหน้ารถทัวร์คันแรก ก่อนที่รถบรรทุกจะขับเบี่ยงมาทางช่องซ้าย ทำให้รถทัวร์หักหลบกะทันหัน จนเสียหลักชนกับแท่งปูนขอบทาง และพลิกตะแคงขวางถนน จากนั้นรถคันที่ 2 และคันที่ 3 ตามมาชนท้าย โดยมีผู้บาดเจ็บในรถทัวร์คันแรกหลายราย ซึ่งบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนข้อหาความผิดเข้าข่าย ความผิดฐาน "ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ" แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับผู้ใด ต้องสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์รวมทั้งคนขับรถทัวร์คันแรกที่พักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล รวมทั้งพยานรายอื่นๆ ก่อนที่จะดำเนินคดีต่อไป