xs
xsm
sm
md
lg

ทองคำทะยาน น้ำมันพุ่ง ดาวโจนส์ปิดลบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์-COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 11.4 ดอลลาร์ หรือ 1.02% ปิดที่ 1,134 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาดของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ในเดือนก.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%

ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดไนเม็กซ์ นิวยอร์ก ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีแนวโน้มที่สดใส เมื่อพิจารณาจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ที่ขยายตัวแข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส สหรัฐ งวดส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 2.66 ดอลลาร์ หรือร้อยละ 6.3 ปิดที่ 45.22 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ บาร์เรล

ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 2.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.05 ดอลลาร์

ตลอดทั้งสัปดาห์ น้ำมันดิบสัญญาสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 11 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการปิดบวกรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบ 4 ปีครึ่ง หลังจากเมื่อวันจันทร์ (24ส.ค.) ร่วงลงมาอยู่ที่ 38.24 ดอลลาร์ ต่ำที่สุดในรอบ 6 ปีครึ่ง

ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า GDP ไตรมาส 2/2558 ของสหรัฐขยายตัว 3.7% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.3% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.3% โดยการปรับตัวดีขึ้นดังกล่าวเกิดจากการที่ภาคธุรกิจเพิ่มการลงทุน และเพิ่มสต็อกสินค้า รวมทั้งการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค และการใช้จ่ายของรัฐบาล

นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดน้ำมัน โดยมีรายงานว่า กองทัพซาอุดิอาระเบียได้เคลื่อนพลข้ามเขตแดนเข้าไปทางตอนเหนือของเยเมนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งกับกลุ่มกบฎฮูตีในช่วงต้นเดือนมี.ค.ปีนี้

ด้านดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ได้ช่วยสกัดแรงลบในตลาด ซึ่งส่งผลให้ดาวโจนส์ขยับลงไม่มากนัก ในขณะที่ดัชนีแนสแด็ก และเอสแอนด์พี500 สามารถปิดในแดนบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,643.01 จุด ลดลง 11.76 จุด หรือ -0.07% ดัชนี เอสแอนด์พี500 ปิดที่ 1,988.87 จุด เพิ่มขึ้น 1.21 จุด หรือ +0.06% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,828.32 จุด เพิ่มขึ้น 15.61 จุด หรือ +0.32%

ส่วนในตลอดทั้งสัปดาห์ ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1.1%, เเอสแอนด์พี500 ปรับขึ้นทั้งสิ้น 0.9% และแนสแด็ก เพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 2.6%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน โดยดาวโจนส์ปรับตัวลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ในเดือนก.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%

ขณะที่ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายของผู้บริโภคสหรัฐประจำเดือนส.ค.ลดลงมากกว่าคาด สู่ระดับ 91.9 โดยต่ำกว่า 92.9 ซึ่งเป็นตัวเลขเบื้องต้นของเดือนส.ค. และต่ำกว่าระดับ 93.1 ของเดือนก.ค. อันเนื่องมาจากความวิตกต่อภาวะผันผวนในตลาดหุ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับภาวะเศรษฐกิจจีน

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ซึ่งช่วยให้ตลาดลดแรงลบ และยังช่วยหนุนดัชนีแนสแด็ก และเอสแอนด์พี500 ปิดในแดนบวก
กำลังโหลดความคิดเห็น