นายณัฐ พยงค์ศรี นักวิชาการคอมพิวเตอร์ชำนาญการ กระทรวงไอซีที เปิดเผยถึงการเจาะข้อมูลหน้าเว็บไซต์หน่วยงานราชการไทยบางแห่ง โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า "ฟาลิก้า ทีม" (Fallaga Team) ว่าเป็นการแสดงศักยภาพว่ามีฝืมือในการเจาะข้อมูล ซึ่งจะไม่ใช่แค่ประเทศไทย และในวันนี้ กลุ่มฟาลิก้ายังเจาะข้อมูลเว็บไซต์ในอีกหลายประเทศ โดยบางเว็บไซต์ยังไม่รู้ตัวว่าถูกแฮกข้อมูล
สำหรับข้อแนะนำนั้นผู้ดูแลเว็บควรตรวจสอบเว็บให้มากขึ้น และควรอัพเดทระบบปฏิบัติการในการใช้งานเป็นประจำ เพื่อไม่ให้เกิดช่องโหว่และขอให้ติดตามข่าวจากหน่วยงานด้านความปลอดภัยต่างๆ ว่ามีการตรวจพบช่องโหว่ใดบ้างแล้วควรรีบแก้ไขอย่างไร
ทั้งนี้โลกออนไลน์เกิดความปั่นป่วน หลังเที่ยงคืนของวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐบาลไทยถูกแฮก 9 เว็บไซต์ จากกลุ่มมุสลิมเเฮกเกอร์ชื่อว่า ฟาลิก้า ทีม จากตูนิเซีย โดยเปลี่ยนหน้าเพจแรกของเว็บไซต์ เป็นโพสต์รูปชาวโรฮิงญาที่ถูกกระทำโดยรัฐบาลเมียนมา ภาพชาวโรฮิงญาที่พยายามจะหนีมาทางเรือ เเละเด็กชาวมุสลิมที่โดนระเบิดเสียชีวิตจำนวนมาก พร้อมระบุข้อความว่า
1. เพจคุณถูกเเฮกจากหน่วยรบ Cyber Fallag Gassrini เเละดีอาร์ ลาโมชิ (DR Lamochi) จากตูนิเซีย
2. ให้เกียรติคนของเรา ไม่งั้นจะเจอการต่อต้านจากเรา
3. พวกเราคือ Fallaga พวกเราคือชาวมุสลิม
4. พวกเรารักสันติ
นอกจากนี้ ยังมีลิงก์เชื่อมต่อไปยังเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ของกลุ่มแฮกเกอร์ ซึ่งข้อความส่วนใหญ่เป็นภาษาอาหรับ ทั้งนี้ แฮกเกอร์กลุ่มดังกล่าว ตามประวัติเคยเเฮกเว็บไซต์ของฝรั่งเศสมาก่อนกว่า 19,000 เว็บไซต์ หลังจากเหตุการณ์ก่อการร้ายที่มีการกราดยิงในสำนักพิมพ์ ชาร์ลี แอบโด ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
สำหรับเว็บไซต์ในประเทศไทยที่ถูกแฮกซึ่งบางเว็บไซต์แก้ไขแล้ว แต่บางเว็บไซต์ยังไม่ได้แก้ไขมีดังนี้
1.เว็บไซต์ของจังหวัดลำพูน http://www.lamphun.go.th
2.เว็บไซต์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม http://www.msup.msu.ac.th
3.เว็บไซต์ของจังหวัดอุบลราชธานี http://www.ubn4.go.th
4.เว็บไซต์สภานิติบัญญัติแห่งชาติ http://www.senate.go.th
5.เว็บไซต์เทศบาลเวียงสะอาด จังหวัดมหาสารคาม http://www.wiangsa-at.go.th/banchang
6.เว็บไซต์โรงพยาบาลลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี http://llkhospital.com/news/index.php
7.เว็บไซต์เทศบาลตำบลดูนสาด จังหวัดขอนแก่น http://www.doonsad.go.th/banchang
8.เว็บไซต์ของจังหวัดสระแก้ว http://www.sakaeo.go.th
9.เว็บไซต์ปากน้ำปราณ http://www.paknampran.go.th
ด้านนายดนัย ชนกล้าหาญ หัวหน้าประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้สั่งให้มีการแก้ไขหน้าเว็บไซต์โดยเร่งด่วน และให้ใช้ได้ภายในช่วงเย็นวันที่ 25 ส.ค.58 นี้ ทั้งนี้เนื่องจากเว็บไซต์ของจังหวัดลำพูนมีความสำคัญต่อหน่วยงานราชการ เพื่อจะใช้ในการแจ้งข่าวสารให้กับประชาชนทราบด้วย ดังนั้นจึงมีความสำคัญและทางผู้ว่าราชการยังได้สั่งการให้ผู้เชี่ยวชาญเร่งตรวจสอบถึงปัญหารวมทั้งให้ประสานกับหน่วยงานด้านไอซีที ให้ทำระบบในการป้องกันการแฮกข้อมูลด้วย ในส่วนของการดำเนินการตรวจสอบ ว่ามีคนเข้าไปแฮกข้อมูลนั้น ก็ได้สั่งการให้ตรวจสอบแล้วเช่นกัน จากข้อมูลล่าสุด ยังไม่สามารถระบุได้ว่าถูกกลุ่มไหน หรือใครแฮกข้อมูล ขอเวลาดำเนินการตรวจสอบสักระยะหนึ่งก่อน
ทั้งนี้เมื่อเวลา 20.50 น. วันเดียวกัน ได้ตรวจสอบไปยังเว็บไซต์ที่ถูกแฮกข้อมูล คือ www.lamphun.go.th ยังไม่สามารถเข้าได้ แต่ว่าหน้าแลนดิ้งเพจกลับมาแล้ว คาดว่ายังอยู่ในช่วงแก้ไขข้อมูลและวางระบบป้องกันความปลอดภัย
สำหรับข้อแนะนำนั้นผู้ดูแลเว็บควรตรวจสอบเว็บให้มากขึ้น และควรอัพเดทระบบปฏิบัติการในการใช้งานเป็นประจำ เพื่อไม่ให้เกิดช่องโหว่และขอให้ติดตามข่าวจากหน่วยงานด้านความปลอดภัยต่างๆ ว่ามีการตรวจพบช่องโหว่ใดบ้างแล้วควรรีบแก้ไขอย่างไร
ทั้งนี้โลกออนไลน์เกิดความปั่นป่วน หลังเที่ยงคืนของวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐบาลไทยถูกแฮก 9 เว็บไซต์ จากกลุ่มมุสลิมเเฮกเกอร์ชื่อว่า ฟาลิก้า ทีม จากตูนิเซีย โดยเปลี่ยนหน้าเพจแรกของเว็บไซต์ เป็นโพสต์รูปชาวโรฮิงญาที่ถูกกระทำโดยรัฐบาลเมียนมา ภาพชาวโรฮิงญาที่พยายามจะหนีมาทางเรือ เเละเด็กชาวมุสลิมที่โดนระเบิดเสียชีวิตจำนวนมาก พร้อมระบุข้อความว่า
1. เพจคุณถูกเเฮกจากหน่วยรบ Cyber Fallag Gassrini เเละดีอาร์ ลาโมชิ (DR Lamochi) จากตูนิเซีย
2. ให้เกียรติคนของเรา ไม่งั้นจะเจอการต่อต้านจากเรา
3. พวกเราคือ Fallaga พวกเราคือชาวมุสลิม
4. พวกเรารักสันติ
นอกจากนี้ ยังมีลิงก์เชื่อมต่อไปยังเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ของกลุ่มแฮกเกอร์ ซึ่งข้อความส่วนใหญ่เป็นภาษาอาหรับ ทั้งนี้ แฮกเกอร์กลุ่มดังกล่าว ตามประวัติเคยเเฮกเว็บไซต์ของฝรั่งเศสมาก่อนกว่า 19,000 เว็บไซต์ หลังจากเหตุการณ์ก่อการร้ายที่มีการกราดยิงในสำนักพิมพ์ ชาร์ลี แอบโด ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
สำหรับเว็บไซต์ในประเทศไทยที่ถูกแฮกซึ่งบางเว็บไซต์แก้ไขแล้ว แต่บางเว็บไซต์ยังไม่ได้แก้ไขมีดังนี้
1.เว็บไซต์ของจังหวัดลำพูน http://www.lamphun.go.th
2.เว็บไซต์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม http://www.msup.msu.ac.th
3.เว็บไซต์ของจังหวัดอุบลราชธานี http://www.ubn4.go.th
4.เว็บไซต์สภานิติบัญญัติแห่งชาติ http://www.senate.go.th
5.เว็บไซต์เทศบาลเวียงสะอาด จังหวัดมหาสารคาม http://www.wiangsa-at.go.th/banchang
6.เว็บไซต์โรงพยาบาลลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี http://llkhospital.com/news/index.php
7.เว็บไซต์เทศบาลตำบลดูนสาด จังหวัดขอนแก่น http://www.doonsad.go.th/banchang
8.เว็บไซต์ของจังหวัดสระแก้ว http://www.sakaeo.go.th
9.เว็บไซต์ปากน้ำปราณ http://www.paknampran.go.th
ด้านนายดนัย ชนกล้าหาญ หัวหน้าประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้สั่งให้มีการแก้ไขหน้าเว็บไซต์โดยเร่งด่วน และให้ใช้ได้ภายในช่วงเย็นวันที่ 25 ส.ค.58 นี้ ทั้งนี้เนื่องจากเว็บไซต์ของจังหวัดลำพูนมีความสำคัญต่อหน่วยงานราชการ เพื่อจะใช้ในการแจ้งข่าวสารให้กับประชาชนทราบด้วย ดังนั้นจึงมีความสำคัญและทางผู้ว่าราชการยังได้สั่งการให้ผู้เชี่ยวชาญเร่งตรวจสอบถึงปัญหารวมทั้งให้ประสานกับหน่วยงานด้านไอซีที ให้ทำระบบในการป้องกันการแฮกข้อมูลด้วย ในส่วนของการดำเนินการตรวจสอบ ว่ามีคนเข้าไปแฮกข้อมูลนั้น ก็ได้สั่งการให้ตรวจสอบแล้วเช่นกัน จากข้อมูลล่าสุด ยังไม่สามารถระบุได้ว่าถูกกลุ่มไหน หรือใครแฮกข้อมูล ขอเวลาดำเนินการตรวจสอบสักระยะหนึ่งก่อน
ทั้งนี้เมื่อเวลา 20.50 น. วันเดียวกัน ได้ตรวจสอบไปยังเว็บไซต์ที่ถูกแฮกข้อมูล คือ www.lamphun.go.th ยังไม่สามารถเข้าได้ แต่ว่าหน้าแลนดิ้งเพจกลับมาแล้ว คาดว่ายังอยู่ในช่วงแก้ไขข้อมูลและวางระบบป้องกันความปลอดภัย