กรีซจ่ายหนี้อีซีบี หลังได้เงินกู้งวดแรก 23,000 ล้านยูโรจากยูโรกรุ๊ป ซึ่งถือเป็นการถอยฉากอีกก้าวจากภาวะใกล้ล้มละลาย และเปิดโอกาสให้ซีปราสมีเวลาขบคิดแก้วิกฤตการเมืองจากปัญหาสมาชิกขบถในพรรค โดยขณะนี้รัฐมนตรีอาวุโสเริ่มถกกันหน้าดำคร่ำเครียดเรื่องการเลือกตั้งก่อนกำหนด
เอเธนส์ใช้หนี้ธนาคารกลางยุโรปด้วยเงินงวดแรกจากแพ็คเกจความช่วยเหลือครั้งใหม่มูลค่า 86,000 ล้านยูโร (96,000 ล้านดอลลาร์) หลังจากอุปสรรคสุดท้ายผ่านพ้นไปเมื่อคืนวันพุธ (19 ส.ค.) จากการอนุมัติของที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน (ยูโรกรุ๊ป) และรัฐสภาชาติสมาชิก ซึ่งรวมถึงเยอรมนี
เงินกู้งวดแรกที่เอเธนส์ได้รับในวันพฤหัสฯ (20 ส.ค.) มูลค่า 23,000 ล้านยูโรนั้น กรีซจัดสรรออกเป็นสองส่วน โดยส่วนแรก 13,000 ล้านยูโรนำไปชำระหนี้อีซีบีและชำระเงินกู้ระยะสั้น 7,160 ล้านยูโรที่สหภาพยุโรป (อียู) ปล่อยให้เมื่อเดือนกรกฎาคมเพื่อให้นำไปใช้คืนอีซีบีและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และอีก 10,000 ล้านยูโร กรีซจะนำไปเพิ่มทุนแบงก์ในประเทศ
กรีซนั้นเกือบหลุดจากยูโรโซนเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ขัดขืนมาตรการรัดเข็มขัดที่บรรดาเจ้าหนี้เรียกร้อง แต่ในที่สุดเมื่อเดือนที่แล้วก็จำใจต้องยอมรับเงื่อนไขที่เข้มข้นกว่าเดิม และทำให้สมาชิกปีกซ้ายในพรรคไซรีซาของตนเองลงมติคัดค้านมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจในสภา และซีปราสต้องหันไปพึ่งเสียงสนับสนุนจากฝ่ายค้านที่ยอมลงมติให้เพื่อเห็นแก่ประเทศชาติ
ปาโนส สกูร์เลติส รัฐมนตรีพลังงานและที่ปรึกษาใกล้ชิดของซีปราส เผยว่า จำเป็นต้องจัดการกับปัญหาการเมือง โดยรัฐบาลต้องรู้ว่า ยังคงมีเสียงข้างมากหรือไม่ สกูร์เลติสยังไม่เห็นด้วยกับซีปราสที่ต้องการเรียกประชุมลูกพรรคไซรีซาก่อน โดยเห็นว่า การเลือกตั้งสำคัญกว่า
แม้ขณะนี้ ซีปราสที่ชนะการเลือกตั้งขึ้นสู่อำนาจในเดือนมกราคมด้วยนโยบายต่อต้านการรัดเข็มขัด ยังคงปิดปากเงียบเกี่ยวกับประเด็นการเลือกตั้ง แต่บรรดารัฐมนตรีอาวุโสต่างถกเถียงถึงข้อดีข้อเสียในการจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดกันอย่างดุเดือด
เอเธนส์ใช้หนี้ธนาคารกลางยุโรปด้วยเงินงวดแรกจากแพ็คเกจความช่วยเหลือครั้งใหม่มูลค่า 86,000 ล้านยูโร (96,000 ล้านดอลลาร์) หลังจากอุปสรรคสุดท้ายผ่านพ้นไปเมื่อคืนวันพุธ (19 ส.ค.) จากการอนุมัติของที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน (ยูโรกรุ๊ป) และรัฐสภาชาติสมาชิก ซึ่งรวมถึงเยอรมนี
เงินกู้งวดแรกที่เอเธนส์ได้รับในวันพฤหัสฯ (20 ส.ค.) มูลค่า 23,000 ล้านยูโรนั้น กรีซจัดสรรออกเป็นสองส่วน โดยส่วนแรก 13,000 ล้านยูโรนำไปชำระหนี้อีซีบีและชำระเงินกู้ระยะสั้น 7,160 ล้านยูโรที่สหภาพยุโรป (อียู) ปล่อยให้เมื่อเดือนกรกฎาคมเพื่อให้นำไปใช้คืนอีซีบีและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และอีก 10,000 ล้านยูโร กรีซจะนำไปเพิ่มทุนแบงก์ในประเทศ
กรีซนั้นเกือบหลุดจากยูโรโซนเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ขัดขืนมาตรการรัดเข็มขัดที่บรรดาเจ้าหนี้เรียกร้อง แต่ในที่สุดเมื่อเดือนที่แล้วก็จำใจต้องยอมรับเงื่อนไขที่เข้มข้นกว่าเดิม และทำให้สมาชิกปีกซ้ายในพรรคไซรีซาของตนเองลงมติคัดค้านมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจในสภา และซีปราสต้องหันไปพึ่งเสียงสนับสนุนจากฝ่ายค้านที่ยอมลงมติให้เพื่อเห็นแก่ประเทศชาติ
ปาโนส สกูร์เลติส รัฐมนตรีพลังงานและที่ปรึกษาใกล้ชิดของซีปราส เผยว่า จำเป็นต้องจัดการกับปัญหาการเมือง โดยรัฐบาลต้องรู้ว่า ยังคงมีเสียงข้างมากหรือไม่ สกูร์เลติสยังไม่เห็นด้วยกับซีปราสที่ต้องการเรียกประชุมลูกพรรคไซรีซาก่อน โดยเห็นว่า การเลือกตั้งสำคัญกว่า
แม้ขณะนี้ ซีปราสที่ชนะการเลือกตั้งขึ้นสู่อำนาจในเดือนมกราคมด้วยนโยบายต่อต้านการรัดเข็มขัด ยังคงปิดปากเงียบเกี่ยวกับประเด็นการเลือกตั้ง แต่บรรดารัฐมนตรีอาวุโสต่างถกเถียงถึงข้อดีข้อเสียในการจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดกันอย่างดุเดือด
