ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาคดีที่อัยการ และนายเจตษฎา วิวัฒนานุกูล บุตรชายนางระวีวรรณ เสตะรัต เป็นโจทก์ร่วม ยื่นฟ้องนายจตุรงค์ หรือตึ๋ง เบญกุล มือปืน และนายประกอบ สีนาค ผู้ชี้เป้า เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันสังหารนางระวีวรรณ เสตะรัต หรือนางอภัสนันท์ ธิติโชติชัยปรีชา ผู้เสียหายจากการทำศัลยกรรมสถาบันเสริมความงามไบโอคลินิก ย่านดอนเมือง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนกันยายน ปี 2550
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสอง เนื่องจากพยานหลักฐานมีน้ำหนักไม่เพียงพอ ขณะที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้จำคุกจำเลยที่ 1 ตลอดชีวิต เนื่องจากมีประจักษ์พยานเห็นจำเลยที่ 1 ใช้ปืนยิงผู้ตายในระยะ 7 เมตร สอดคล้องกับพยานหลักฐานอื่น ส่วนจำเลยที่ 2 ยกฟ้อง ล่าสุด ศาลฎีกาวันนี้ประชุมสรุปสำนวน พิพากษาให้ยกฟ้องจำเลยทั้งสองคน เนื่องจากคำให้การของพยานโจทก์ และพยานหลักฐานอื่นยังอ่อน มีเหตุสงสัยตามสมควร จึงให้ยกประโยชน์ให้จำเลย
ขณะที่นายเจตษฎา บุตรชายของผู้เสียชีวิต ที่มาฟังคำพิพากษา กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า นับเป็นอีกคดีอุทาหรณ์ที่สุดท้ายไม่สามารถนำตัวคนผิดมาลงโทษได้ ทั้งนี้ ยอมรับว่า ท้อใจ ที่สู้มาตลอดก็เพื่อแม่ ส่วนจะเดินหน้ารื้อฟื้นคดี หรือสู้ต่อหรือไม่ ขอเวลาปรึกษาครอบครัวก่อน
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสอง เนื่องจากพยานหลักฐานมีน้ำหนักไม่เพียงพอ ขณะที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้จำคุกจำเลยที่ 1 ตลอดชีวิต เนื่องจากมีประจักษ์พยานเห็นจำเลยที่ 1 ใช้ปืนยิงผู้ตายในระยะ 7 เมตร สอดคล้องกับพยานหลักฐานอื่น ส่วนจำเลยที่ 2 ยกฟ้อง ล่าสุด ศาลฎีกาวันนี้ประชุมสรุปสำนวน พิพากษาให้ยกฟ้องจำเลยทั้งสองคน เนื่องจากคำให้การของพยานโจทก์ และพยานหลักฐานอื่นยังอ่อน มีเหตุสงสัยตามสมควร จึงให้ยกประโยชน์ให้จำเลย
ขณะที่นายเจตษฎา บุตรชายของผู้เสียชีวิต ที่มาฟังคำพิพากษา กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า นับเป็นอีกคดีอุทาหรณ์ที่สุดท้ายไม่สามารถนำตัวคนผิดมาลงโทษได้ ทั้งนี้ ยอมรับว่า ท้อใจ ที่สู้มาตลอดก็เพื่อแม่ ส่วนจะเดินหน้ารื้อฟื้นคดี หรือสู้ต่อหรือไม่ ขอเวลาปรึกษาครอบครัวก่อน