พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีการดำเนินการถอดยศ และการขอคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่าเป็นเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อเท็จจริง หากมีความผิดต้องดำเนินการตามระเบียบกฎเกณฑ์ ละเว้นไม่ได้ ขณะเดียวกันหากไม่เข้าเงื่อนไขข้อกฎหมาย ที่จะดำเนินการก็ไม่สามารถดำเนินการได้
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรียังอยากเรียกร้องให้สื่อมวลชนทำหน้าที่ในการเป็นสื่อกลางทำความเข้าใจกับสังคมว่า กระบวนการตามกฎหมายเป็นเช่นไร มีขั้นตอนอย่างไร ไม่ควรจินตนาการว่า เป็นคำสั่งหรือความต้องการของใคร จะทำให้สังคมสับสน และอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และแม้ไม่มีเจตนาให้เกิดความวุ่นวาย แต่ควรคาดการณ์ถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นควบคู่ไปด้วย โดยนายกรัฐมนตรีคาดหวังว่า สื่อจะเป็นสถาบันทางสังคมที่ช่วยสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง สร้างความสงบสุขในประเทศ และสร้างแรงจูงใจให้คนในชาติ ได้ยกระดับตนเอง ได้พัฒนาตนเองให้พร้อมสู่การปฏิรูปประเทศ ดังนั้นข้อมูลที่ไม่สร้างสรรค์ ปราศจากข้อเท็จจริง หรือบิดเบือนไปจากสาระที่ถูกต้อง เป็นเท็จ รวมทั้งไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคม ไม่ควรนำมาเผยแพร่ให้เกิดความสับสน และเสียหายต่อบ้านเมือง
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรียังอยากเรียกร้องให้สื่อมวลชนทำหน้าที่ในการเป็นสื่อกลางทำความเข้าใจกับสังคมว่า กระบวนการตามกฎหมายเป็นเช่นไร มีขั้นตอนอย่างไร ไม่ควรจินตนาการว่า เป็นคำสั่งหรือความต้องการของใคร จะทำให้สังคมสับสน และอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และแม้ไม่มีเจตนาให้เกิดความวุ่นวาย แต่ควรคาดการณ์ถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นควบคู่ไปด้วย โดยนายกรัฐมนตรีคาดหวังว่า สื่อจะเป็นสถาบันทางสังคมที่ช่วยสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง สร้างความสงบสุขในประเทศ และสร้างแรงจูงใจให้คนในชาติ ได้ยกระดับตนเอง ได้พัฒนาตนเองให้พร้อมสู่การปฏิรูปประเทศ ดังนั้นข้อมูลที่ไม่สร้างสรรค์ ปราศจากข้อเท็จจริง หรือบิดเบือนไปจากสาระที่ถูกต้อง เป็นเท็จ รวมทั้งไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคม ไม่ควรนำมาเผยแพร่ให้เกิดความสับสน และเสียหายต่อบ้านเมือง
