ตำรวจดูไบเผยเมื่อวันพุธ(12ส.ค.) รายงานข่าวกรณีคุณพ่อรายหนึ่งห้ามเจ้าหน้าที่ชายฝั่งเข้าช่วยเหลือลูกสาวที่กำลังจมน้ำ เพราะเขาเลือกปล่อยให้เธอตายมากกว่าจะยอมให้ลูกสาวถูกชายแปลกหน้าแตะเนื้อต้องตัว ซึ่งกลายเป็นหัวข้อถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงถูกหยิบยกไปนำเสนอต่อโดยสื่อหลัก แท้ที่จริงแล้วเป็นเรื่องเก่าที่ตั้งแต่เมื่อเกือบ 2 ทศวรรษก่อน
รายงานนี้ถูกเผยแพร่โดยเว็บไซต์ข่าว Emirates 24/7 สื่อมวลชนท้องถิ่นดูไบเป็นแห่งแรก จากนั้นสื่อมวลชนชั้นนำหลายสำนัก ในนั้นรวมถึงเอเอฟพี ก็หยิบยกมานำเสนอต่อ โดยในข่าวอ้างคำสัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งเล่าว่าผู้เป็นพ่อขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่ชายฝั่งเข้าช่วยเหลือลูกสาวที่กำลังจมน้ำ เพราะการถูกแตะเนื้อต้องตัวโดยชายแปลกหน้าจะทำให้เธอเสื่อมเสียเกียรติ
อย่างไรก็ตามล่าสุุดทางเอเอฟพีได้ติดต่อสอบถามไปยังดูไบ และได้รับคำตอบกลับมาผ่านทวิตเตอร์ว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ "มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1996 แล้ว" ตำรวจระบุโดยไม่ให้รายละเอียดใดๆเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีนี้
Emirates 24/7 เผยแพร่เรื่องราวดังกล่าวเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับวันเวลาที่เกิดเหตุ กระพือความสนใจอย่างกว้างขวางบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ในนั้นได้มีการกล่าวหาว่าสื่อว่านำเสนอข่าวเก่า
ต่อมาทางเว็บไซต์จึงให้ข้อมูลเพิ่มเติมชี้แจงว่าเรื่องราวนี้เป็นการแค่ย้อนระลึกถึงความหลังถึงหนึ่งในเหตุการณ์เลวร้ายสุดที่พันตำรวจโทอาเหม็ด เบอร์กีบาร์ ซึ่งเป็นแหล่งข่าว เคยประสบพบเจอขณะดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการแผนกค้นหาและกู้ภัยตำรวจดูไบ
รายงานนี้ถูกเผยแพร่โดยเว็บไซต์ข่าว Emirates 24/7 สื่อมวลชนท้องถิ่นดูไบเป็นแห่งแรก จากนั้นสื่อมวลชนชั้นนำหลายสำนัก ในนั้นรวมถึงเอเอฟพี ก็หยิบยกมานำเสนอต่อ โดยในข่าวอ้างคำสัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งเล่าว่าผู้เป็นพ่อขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่ชายฝั่งเข้าช่วยเหลือลูกสาวที่กำลังจมน้ำ เพราะการถูกแตะเนื้อต้องตัวโดยชายแปลกหน้าจะทำให้เธอเสื่อมเสียเกียรติ
อย่างไรก็ตามล่าสุุดทางเอเอฟพีได้ติดต่อสอบถามไปยังดูไบ และได้รับคำตอบกลับมาผ่านทวิตเตอร์ว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ "มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1996 แล้ว" ตำรวจระบุโดยไม่ให้รายละเอียดใดๆเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีนี้
Emirates 24/7 เผยแพร่เรื่องราวดังกล่าวเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับวันเวลาที่เกิดเหตุ กระพือความสนใจอย่างกว้างขวางบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ในนั้นได้มีการกล่าวหาว่าสื่อว่านำเสนอข่าวเก่า
ต่อมาทางเว็บไซต์จึงให้ข้อมูลเพิ่มเติมชี้แจงว่าเรื่องราวนี้เป็นการแค่ย้อนระลึกถึงความหลังถึงหนึ่งในเหตุการณ์เลวร้ายสุดที่พันตำรวจโทอาเหม็ด เบอร์กีบาร์ ซึ่งเป็นแหล่งข่าว เคยประสบพบเจอขณะดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการแผนกค้นหาและกู้ภัยตำรวจดูไบ