เกาหลีใต้ออกคำสั่งในวันจันทร์ (10 ส.ค.) ให้เปิดเครือข่ายลำโพงซึ่งติดตั้งไว้ตามแดนชายแดนติดต่อกับเกาหลีเหนือ ดำเนินสงครามโฆษณาชวนเชื่อกับฝ่ายโสมแดงอีกครั้งภายหลังยุติมา 11 ปี ทั้งนี้เพื่อตอบโต้แก้เผ็ดการที่เกาหลีเหนือแอบลอบเข้ามาฝังกับระเบิด จนทหารเกาหลีใต้ 2 คนได้รับบาดเจ็บขณะลาดตระเวน คาดหมายกันว่าความเคลื่อนไหวคราวนี้จะทำให้เปียงยางตอบโต้อย่างรุนแรงและสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีระอุขึ้นอีกครั้ง
กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แถลงเมื่อวันจันทร์ (10) ว่า จะเปิดเครือข่ายลำโพงบริเวณชายแดนเป็นครั้งแรกนับจากปี 2004 เพื่อป่าวประกาศข้อความประณามการยั่วยุของฝ่ายเปียงยาง โดยคำสั่งนี้มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ประกาศว่า เปียงยางจะต้อง “จ่ายค่าทดแทนอย่างสาสม” จากการแอบลักลอบเข้ามาฝังกับระเบิดในเขตปลอดทหาร (DMZ) ซึ่งได้ระเบิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่แล้ว (7) ขณะกองทหารเกาหลีใต้ออกลาดตระเวนตรวจการณ์ เป็นเหตุให้ทหารโสมขาวได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คน โดยคนหนึ่งต้องถูกตัดขาทั้งสองข้าง และอีกคนหนึ่งถูกตัดขาข้างหนึ่ง
คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ ยังเรียกร้องให้เกาหลีเหนือนำตัวผู้ที่ทำการโจมตีอย่างไร้เหตุผล และถือเป็นการละเมิดข้อตกลงไม่รุกรานกันอย่างรุนแรงคราวนี้ มากล่าวคำขอโทษและรับการลงโทษสำหรับความผิดที่ก่อขึ้น
ขณะเดียวกัน กองบัญชาการสหประชาชาติ ที่มีอเมริกาเป็นแกนนำและรับผิดชอบตรวจตราการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงซึ่งทำให้สงครามเกาหลีระหว่างปี 1950-1953 ยุติลง ออกมาระบุว่า จากการวิเคราะห์ซากกับระเบิดดังกล่าวพบว่า เป็นกับระเบิดแบบ “กล่องไม้” ของเกาหลีเหนือ และถูกนำไปฝังในบริเวณที่ทราบกันดีว่าเป็นเส้นทางลาดตระเวนของทหารเกาหลีใต้เมื่อเร็วๆ นี้เอง ไม่ใช่กับระเบิดเก่าที่ตกค้างจากช่วงสงคราม นอกจากนั้น เศษวัสดุจากกับระเบิดยังมีสีที่โดยปกติแล้วเป็นสีที่เกาหลีเหนือใช้อยู่
กองบัญชาการของยูเอ็นยังประณามเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และเสริมว่า จะนัดประชุมเรื่องนี้กับกองทัพเกาหลีเหนือ
กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แถลงเมื่อวันจันทร์ (10) ว่า จะเปิดเครือข่ายลำโพงบริเวณชายแดนเป็นครั้งแรกนับจากปี 2004 เพื่อป่าวประกาศข้อความประณามการยั่วยุของฝ่ายเปียงยาง โดยคำสั่งนี้มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ประกาศว่า เปียงยางจะต้อง “จ่ายค่าทดแทนอย่างสาสม” จากการแอบลักลอบเข้ามาฝังกับระเบิดในเขตปลอดทหาร (DMZ) ซึ่งได้ระเบิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่แล้ว (7) ขณะกองทหารเกาหลีใต้ออกลาดตระเวนตรวจการณ์ เป็นเหตุให้ทหารโสมขาวได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คน โดยคนหนึ่งต้องถูกตัดขาทั้งสองข้าง และอีกคนหนึ่งถูกตัดขาข้างหนึ่ง
คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ ยังเรียกร้องให้เกาหลีเหนือนำตัวผู้ที่ทำการโจมตีอย่างไร้เหตุผล และถือเป็นการละเมิดข้อตกลงไม่รุกรานกันอย่างรุนแรงคราวนี้ มากล่าวคำขอโทษและรับการลงโทษสำหรับความผิดที่ก่อขึ้น
ขณะเดียวกัน กองบัญชาการสหประชาชาติ ที่มีอเมริกาเป็นแกนนำและรับผิดชอบตรวจตราการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงซึ่งทำให้สงครามเกาหลีระหว่างปี 1950-1953 ยุติลง ออกมาระบุว่า จากการวิเคราะห์ซากกับระเบิดดังกล่าวพบว่า เป็นกับระเบิดแบบ “กล่องไม้” ของเกาหลีเหนือ และถูกนำไปฝังในบริเวณที่ทราบกันดีว่าเป็นเส้นทางลาดตระเวนของทหารเกาหลีใต้เมื่อเร็วๆ นี้เอง ไม่ใช่กับระเบิดเก่าที่ตกค้างจากช่วงสงคราม นอกจากนั้น เศษวัสดุจากกับระเบิดยังมีสีที่โดยปกติแล้วเป็นสีที่เกาหลีเหนือใช้อยู่
กองบัญชาการของยูเอ็นยังประณามเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และเสริมว่า จะนัดประชุมเรื่องนี้กับกองทัพเกาหลีเหนือ