ศาลจังหวัดสมุทรปราการ อ่านพิพากษาศาลฎีกา สั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรปราการ กรณีพนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชนม์สวัสดิ์ จำเลยที่ 1 ฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นผู้มีหน้าที่ในการเลือกตั้ง หรือเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง จงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือกระทำการโดยเจตนาขัดขวางไม่เป็นไปตามกฎหมาย และนายปิติชาติ ไตรสุรัตน์ รองนายก อบจ.สมุทรปราการ จำเลยที่ 2 ในฐานความผิดเดียวกัน และปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ
ทั้งนี้ เป็นการนัดหมายในชั้นศาลฎีกาครั้งที่ 6 หลังจาก 5 ครั้งก่อนหน้านี้ จำเลยที่ 1 และ 2 ผลัดกันขอเลื่อนรับฟังคำพิพากษา กระทั่งถึงการนัดหมายครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่่ผ่านมา นายชนม์สวัสดิ์ได้เดินทางมาที่ศาล แต่ปรากฎว่านายปิติชาติ ไม่มาศาล โดยแจ้งว่าขัดข้องเรื่องสุขภาพแต่ไม่มีใบรับรองแพทย์มาแสดง ศาลจึงสั่งให้ออกหมายจับนายปิติชาติ เพราะเคยกำชับแล้วว่า คดีนี้มีการเลื่อนอ่านคำพิพากษามาหลายครั้ง
คดีดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2542 ซึ่งมีผู้สมัคร 2 กลุ่ม คือ กลุ่มปากน้ำ 2000 ของนายชนม์สวัสดิ์ และกลุ่มเมืองสมุทร ของนายประสันต์ ศีลพิพัฒน์ ได้มีการจับภาพชายลึกลับกำลังนำบัตรเลือกตั้งผีมาใส่ในหีบบัตร ต่อมานายประสันต์ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวหาว่า มีการทุจริตการเลือกตั้ง จนเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2545 อัยการจังหวัดสมุทรปราการ ได้ยื่นฟ้องนายชนม์สวัสดิ์ หัวหน้ากลุ่มปากน้ำ 2000 และผู้สมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรปราการ เป็นจำเลยที่ 1 และนายปิติชาติ ปลัดเทศบาลนครสมุทรปราการในขณะนั้น เป็นจำเลยที่ 2 โดยในการพิจารณาของศาลชั้นต้น คู่ความทั้งสองฝ่ายได้นำพยานเบิกความต่อสู้คดีรวม 50 ปาก ก่อนที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการจะอ่านคำพิพากษา ให้จำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้จำคุกจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งให้ย้ายนายชนม์สวัสดิ์ พ้นจากตำแหน่งนายก อบจ.สมุทรปราการ จากกรณีความไม่โปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณอุดหนุนวัดในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ
ทั้งนี้ เป็นการนัดหมายในชั้นศาลฎีกาครั้งที่ 6 หลังจาก 5 ครั้งก่อนหน้านี้ จำเลยที่ 1 และ 2 ผลัดกันขอเลื่อนรับฟังคำพิพากษา กระทั่งถึงการนัดหมายครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่่ผ่านมา นายชนม์สวัสดิ์ได้เดินทางมาที่ศาล แต่ปรากฎว่านายปิติชาติ ไม่มาศาล โดยแจ้งว่าขัดข้องเรื่องสุขภาพแต่ไม่มีใบรับรองแพทย์มาแสดง ศาลจึงสั่งให้ออกหมายจับนายปิติชาติ เพราะเคยกำชับแล้วว่า คดีนี้มีการเลื่อนอ่านคำพิพากษามาหลายครั้ง
คดีดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2542 ซึ่งมีผู้สมัคร 2 กลุ่ม คือ กลุ่มปากน้ำ 2000 ของนายชนม์สวัสดิ์ และกลุ่มเมืองสมุทร ของนายประสันต์ ศีลพิพัฒน์ ได้มีการจับภาพชายลึกลับกำลังนำบัตรเลือกตั้งผีมาใส่ในหีบบัตร ต่อมานายประสันต์ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวหาว่า มีการทุจริตการเลือกตั้ง จนเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2545 อัยการจังหวัดสมุทรปราการ ได้ยื่นฟ้องนายชนม์สวัสดิ์ หัวหน้ากลุ่มปากน้ำ 2000 และผู้สมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรปราการ เป็นจำเลยที่ 1 และนายปิติชาติ ปลัดเทศบาลนครสมุทรปราการในขณะนั้น เป็นจำเลยที่ 2 โดยในการพิจารณาของศาลชั้นต้น คู่ความทั้งสองฝ่ายได้นำพยานเบิกความต่อสู้คดีรวม 50 ปาก ก่อนที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการจะอ่านคำพิพากษา ให้จำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้จำคุกจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งให้ย้ายนายชนม์สวัสดิ์ พ้นจากตำแหน่งนายก อบจ.สมุทรปราการ จากกรณีความไม่โปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณอุดหนุนวัดในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ