บรรยากาศทั่วไปของของหวัดปัตตานี ประชาชนในพื้นที่ยังคงดำเนินชีวิตตามปกติ ท่ามการดูแลความปลอดภัยชองเจ้าหน้าที่ ที่ยังคงทำงานปกติ มีเจ้าทีตามจุดตรวจ จุดสกัด เพื่อทำหน้าที่อำนวยความสะดวกประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจร และตรวจรถเข้าออกตามถนนสายหลัก และสายรองตามถนนหมู่บ้านอย่างเข้มงวด
ในขณะเดียวกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกโพธิ์ และเจ้าหน้าที่ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีผู้ไม่หวังดีใช้สีสเปรย์พ่นข้อความสีแดง "เจรจากับทหารได้อะไร" กลางถนนทางหลวงชนบทสายนาเกตุ-บาซาเอ บริเวณพื้นที่ ม.4 บ้านคลองช้าง ต.นาเกตุ จำนวน 4 จุด บริเวณ ม.7 บ้านคลองช้างออก ต.นาเกตุ อีก 1 จุด บนถนนเลียบคลองชลประทาน สายนาเกตุ-แม่ลาน บริเวณ ม.2 บ้านหนองกรก ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จำนวน 1 จุด และบนสะพานข้ามคลองบริเวณ ม.8 บ้านห้วยน้ำเย็น ต.ปูโล๊ะปูโย อ.หนองจิก 1 จุด
โดยข้อความดังกล่าวนี้ มีลักษณะไม่สนับสนุนต่อการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยกับตัวแทนกลุ่มผู้คิดต่างที่ได้ดำเนินการก่อนหน้านี้ และที่จะมีขี้นอีกหลายครั้งในอนาคต เพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ในรูปแบบสันติวิธี ที่ทั้งสองฝ่ายได้เริ่มสร้างความเข้าใจระหว่างกัน โดยทางมาเลเซียรับทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก
จากการพูดคุยกับอดีตแกนนำกลุ่มชบวนการปลดปล่อยปัตตานีในพื้นที่ นับเป็นการสะท้อนถึงความยอมรับของบางกลุ่มที่คณะคู่เจรจาต้องไม่มองข้าม เพราะการพูดคุยจะเกิดผลเป็นรูปธรรมนั้น จะต้องทำให้ทุกกลุ่มเห็นพ้องกัน และเดินหน้าด้วยกัน สันติสุขชายแดนใต้ถึงจะเกิดขึ้นได้จริง
ในขณะเดียวกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกโพธิ์ และเจ้าหน้าที่ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีผู้ไม่หวังดีใช้สีสเปรย์พ่นข้อความสีแดง "เจรจากับทหารได้อะไร" กลางถนนทางหลวงชนบทสายนาเกตุ-บาซาเอ บริเวณพื้นที่ ม.4 บ้านคลองช้าง ต.นาเกตุ จำนวน 4 จุด บริเวณ ม.7 บ้านคลองช้างออก ต.นาเกตุ อีก 1 จุด บนถนนเลียบคลองชลประทาน สายนาเกตุ-แม่ลาน บริเวณ ม.2 บ้านหนองกรก ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จำนวน 1 จุด และบนสะพานข้ามคลองบริเวณ ม.8 บ้านห้วยน้ำเย็น ต.ปูโล๊ะปูโย อ.หนองจิก 1 จุด
โดยข้อความดังกล่าวนี้ มีลักษณะไม่สนับสนุนต่อการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยกับตัวแทนกลุ่มผู้คิดต่างที่ได้ดำเนินการก่อนหน้านี้ และที่จะมีขี้นอีกหลายครั้งในอนาคต เพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ในรูปแบบสันติวิธี ที่ทั้งสองฝ่ายได้เริ่มสร้างความเข้าใจระหว่างกัน โดยทางมาเลเซียรับทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก
จากการพูดคุยกับอดีตแกนนำกลุ่มชบวนการปลดปล่อยปัตตานีในพื้นที่ นับเป็นการสะท้อนถึงความยอมรับของบางกลุ่มที่คณะคู่เจรจาต้องไม่มองข้าม เพราะการพูดคุยจะเกิดผลเป็นรูปธรรมนั้น จะต้องทำให้ทุกกลุ่มเห็นพ้องกัน และเดินหน้าด้วยกัน สันติสุขชายแดนใต้ถึงจะเกิดขึ้นได้จริง