นายวิชาญ ศิริกระจ่าง ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าวังน้อย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ตามที่เกิดภาวะภัยแล้งในพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ทางโรงไฟฟ้าวังน้อยเล็งเห็นว่า ขณะนี้เกษตรกรในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าประสบกับภาวะขาดแคลนน้ำ และในเขต ต.ข้าวงาม อ.วังน้อย มีบ่อดินขนาดใหญ่ในพื้นที่รกร้างที่มีปริมาณน้ำสะสมค่อนข้างมาก (ประมาณหนึ่งล้านคิวบิกเมตร) จึงได้เจรจากับกรมบังคับคดี ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินรกร้างข้างต้น เพื่อขอซื้อน้ำในบ่อ และสูบลงคลองชลประทานหมอน 40 เพื่อให้เกษตรกรที่อยู่ในเขตชลประทานได้มีน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภค และในขณะเดียวกันก็ได้สำรองน้ำที่เกินจากความต้องการของประชาชนไว้ใช้ในการผลิตไฟฟ้าด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่โรงไฟฟ้าวังน้อย ได้ประชุมร่วมกับผู้นำชุมชน องค์การบริหารส่วนตำบลข้าวงาม และเกษตรกรที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงบริเวณบ่อดินในพื้นที่รกร้าง เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 พบว่า เกษตรกรมีความกังวลเกี่ยวกับการสูบน้ำ เกรงว่าจะทำให้ดินทรุดและพังทลายลง โรงไฟฟ้าวังน้อยจึงระงับการสูบน้ำดังกล่าวไปก่อน ซึ่งถึงแม้สถานการณ์ภัยแล้งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำสำรองในโรงไฟฟ้าวังน้อยลดลง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตไฟฟ้า โดยเฉพาะระบบหล่อเย็นของโรงไฟฟ้าวังน้อยแต่อย่างใด เนื่องจากภายในโรงไฟฟ้ามีบ่อกักเก็บน้ำสำรองไว้ใช้งานอยู่แล้ว จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่มั่นใจได้ว่า จะมีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่โรงไฟฟ้าวังน้อย ได้ประชุมร่วมกับผู้นำชุมชน องค์การบริหารส่วนตำบลข้าวงาม และเกษตรกรที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงบริเวณบ่อดินในพื้นที่รกร้าง เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 พบว่า เกษตรกรมีความกังวลเกี่ยวกับการสูบน้ำ เกรงว่าจะทำให้ดินทรุดและพังทลายลง โรงไฟฟ้าวังน้อยจึงระงับการสูบน้ำดังกล่าวไปก่อน ซึ่งถึงแม้สถานการณ์ภัยแล้งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำสำรองในโรงไฟฟ้าวังน้อยลดลง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตไฟฟ้า โดยเฉพาะระบบหล่อเย็นของโรงไฟฟ้าวังน้อยแต่อย่างใด เนื่องจากภายในโรงไฟฟ้ามีบ่อกักเก็บน้ำสำรองไว้ใช้งานอยู่แล้ว จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่มั่นใจได้ว่า จะมีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ