วันนี้ (24 ก.ค.2558) เวลาประมาณ 17.00 น. กองทัพบกจะเคลื่อนย้ายพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ความสูง 13 เมตร 90 เซนติเมตร จากโรงหล่อใน จ.ลพบุรี ไปประดิษฐานที่อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน ผ่าน จ.สระบุรี จ.นครปฐม จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี
ส่วนพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ที่เคลื่อนย้ายจากโรงหล่อใน จ.นครปฐม เมื่อวานนี้ (23 ก.ค.2558) เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรเป็นบางช่วงเพื่ออำนวยความสะดวกการเคลื่อนขบวน ซึ่งขณะนี้ถึงอุทยานราชภักดิ์ ภายในโรงเรียนนายสิบทหารบก อ.หัวหินแล้ว โดยกองทัพจะใช้เวลาในการแต่งองค์เป็นเวลา 3 วัน ก่อนนำขึ้นประดิษฐาน สำหรับการเคลื่อนย้ายพระราชานุสาวรีย์บุรพกษัตริย์จากโรงหล่อ ในจังหวัดต่าง ๆ จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงวันที่ 29 ก.ค.
พล.ท.สุทัศน์ จารุมณี ผู้อำนวยการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ กล่าวว่า การเคลื่อนย้ายพระบรมราชานุสาวรีย์ ไม่กระทบวิถีชีวิตของประชาชน ตลอดเส้นทาง ยังสามารถใช้เส้นทางได้ เนื่องจากมีตำรวจและทหารจัดการจราจรตลอดเส้นทาง
โดยเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2558 เจ้าหน้าที่เริ่มทยอยเคลื่อนย้ายพระบรมราชานุสาวรีย์ 7 พระองค์ ออกจากโรงหล่อ จ.นครปฐม เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐานภายในอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ถูกเคลื่อนย้ายอย่างเป็นทางการเป็นองค์แรก
อย่างไรก็ตามเนื่องจากพระบรมราชานุสาวรีย์สูงถึง 17.45 เมตร การเคลื่อนย้ายต้องใช้รถเทเลอร์ 2 คัน และแยกการขนย้ายเป็น 2 ส่วน นอกจากนี้ ยังมีรถนำและรถปิดท้ายขบวน 10 คัน โดยใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม ผ่าน จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบศิริขันธ์ ซึ่งตลอดทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดการจราจรเพื่อให้ขบวนผ่านโดยสะดวก
ขณะที่ ทหารจากกองพลพัฒนาที่ 1 และทหารจากกรมยุทธโยธา เร่งสร้างพื้นลานพระราชานุสาวรีย์ และพื้นคอนกรีตเชื่อมทางเข้าจากถนนเพชรเกษมมายังบริเวณแท่นประดิษฐานทั้ง 7 แท่น ภายในอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งคืบหน้ากว่าร้อยละ 90
ทั้งนี้การเคลื่อนพระบรมราชานุสาวรีย์จะทำต่อเนื่องในเวลาเดียวกันจนถึงวันที่ 29 ก.ค. 2558 โดยในวันนี้ 24 ก.ค. 2558 จะเคลื่อนย้าย พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนารายณ์ มหาราช จาก จ.ลพบุรี ต่อด้วยพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จาก จ.พระนครศรีอยุธยา พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จาก จ.ปทุมธานี พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จาก จ.ปทุมธานี พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือสมเด็จพระปิยะมหาราช จากกรุงเทพ และ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ส่วนพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ที่เคลื่อนย้ายจากโรงหล่อใน จ.นครปฐม เมื่อวานนี้ (23 ก.ค.2558) เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรเป็นบางช่วงเพื่ออำนวยความสะดวกการเคลื่อนขบวน ซึ่งขณะนี้ถึงอุทยานราชภักดิ์ ภายในโรงเรียนนายสิบทหารบก อ.หัวหินแล้ว โดยกองทัพจะใช้เวลาในการแต่งองค์เป็นเวลา 3 วัน ก่อนนำขึ้นประดิษฐาน สำหรับการเคลื่อนย้ายพระราชานุสาวรีย์บุรพกษัตริย์จากโรงหล่อ ในจังหวัดต่าง ๆ จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงวันที่ 29 ก.ค.
พล.ท.สุทัศน์ จารุมณี ผู้อำนวยการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ กล่าวว่า การเคลื่อนย้ายพระบรมราชานุสาวรีย์ ไม่กระทบวิถีชีวิตของประชาชน ตลอดเส้นทาง ยังสามารถใช้เส้นทางได้ เนื่องจากมีตำรวจและทหารจัดการจราจรตลอดเส้นทาง
โดยเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2558 เจ้าหน้าที่เริ่มทยอยเคลื่อนย้ายพระบรมราชานุสาวรีย์ 7 พระองค์ ออกจากโรงหล่อ จ.นครปฐม เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐานภายในอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ถูกเคลื่อนย้ายอย่างเป็นทางการเป็นองค์แรก
อย่างไรก็ตามเนื่องจากพระบรมราชานุสาวรีย์สูงถึง 17.45 เมตร การเคลื่อนย้ายต้องใช้รถเทเลอร์ 2 คัน และแยกการขนย้ายเป็น 2 ส่วน นอกจากนี้ ยังมีรถนำและรถปิดท้ายขบวน 10 คัน โดยใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม ผ่าน จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบศิริขันธ์ ซึ่งตลอดทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดการจราจรเพื่อให้ขบวนผ่านโดยสะดวก
ขณะที่ ทหารจากกองพลพัฒนาที่ 1 และทหารจากกรมยุทธโยธา เร่งสร้างพื้นลานพระราชานุสาวรีย์ และพื้นคอนกรีตเชื่อมทางเข้าจากถนนเพชรเกษมมายังบริเวณแท่นประดิษฐานทั้ง 7 แท่น ภายในอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งคืบหน้ากว่าร้อยละ 90
ทั้งนี้การเคลื่อนพระบรมราชานุสาวรีย์จะทำต่อเนื่องในเวลาเดียวกันจนถึงวันที่ 29 ก.ค. 2558 โดยในวันนี้ 24 ก.ค. 2558 จะเคลื่อนย้าย พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนารายณ์ มหาราช จาก จ.ลพบุรี ต่อด้วยพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จาก จ.พระนครศรีอยุธยา พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จาก จ.ปทุมธานี พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จาก จ.ปทุมธานี พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือสมเด็จพระปิยะมหาราช จากกรุงเทพ และ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จาก จ.พระนครศรีอยุธยา