นายพลเดช ปิ่นประทีป รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน คนที่ 1 เห็นด้วยว่า การจัดการปิโตรเลียมเป็นเรื่องของผลประโยชน์ของคนทั้งชาติ รวมถึงเมื่อร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นร่างกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ให้เอกชนมากกว่าภาครัฐ โดยรัฐจะได้รับผลตอบแทนต่ำกว่าความเป็นจริง
นายพลเดช กล่าวอีกว่า ภายหลังที่นายกรัฐมนตรี สั่งชะลอการเปิดปิโตรเลียมรอบที่ 21 และให้มีการศึกษา ทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พบว่า มีหลายประเด็นที่มีความสำคัญ และมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ดังนั้น คณะกรรมาธิการฯ จึงเห็นว่าการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนจะทำให้การร่าง พ.ร.บ.มีความรอบคอบและมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดด้วย
นายพลเดช กล่าวอีกว่า ภายหลังที่นายกรัฐมนตรี สั่งชะลอการเปิดปิโตรเลียมรอบที่ 21 และให้มีการศึกษา ทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พบว่า มีหลายประเด็นที่มีความสำคัญ และมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ดังนั้น คณะกรรมาธิการฯ จึงเห็นว่าการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนจะทำให้การร่าง พ.ร.บ.มีความรอบคอบและมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดด้วย