เครือข่ายองค์กรมุสลิม และมัสยิดชุมชนในพื้นที่จังหวัดยะลา ได้จัดพิธีละหมาดเนื่องในโอกาสวันตรุษอีดิลฟิตรี หรือ วันฮารีรายอ ฮิจญเราะฮ์ ศักราช 1436 ประจำปี 2558เพื่อให้ชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ได้ร่วมเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ ในเทศกาลฮารีรายอ อีดิลฟิตรี หลังจากได้ร่วมถือศีลอดมาตลอดระยะเวลา 1 เดือนเต็ม ในเดือนรอมฎอน โดยมีชาวไทยมุสลิมทั้งชาย หญิง และเด็ก กว่า 2,000 คน ร่วมประกอบพิธีละหมาดเพื่อขอพรจากพระผู้เป็นเจ้า โดยมีนายสามารถ วราศิศัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และนายอุดร น้อยทับทิม รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เดินทางมาร่วมแสดงความยินดี เนื่องในโอกาสวันตรุษอีดิลฟิตรี
สำหรับการละหมาดวันอีดิลฟิตรี ซึ่งจะตรงกับวันที่ 1 เดือนเซาวาล เป็นเดือนที่ 10 ของเดือนในศาสนาอิสลาม โดยถือทางจันทรคติ การละหมาดวันอีดิลฟิตรี ถือเป็นการปฏิบัติศาสนกิจที่มีความสำคัญต่อชาวไทยมุสลิมเป็นอย่างมาก มุสลิมทุกเพศทุกวัยทั้งชายหญิง จะต้องไปร่วมกันละหมาด โดยพร้อมเพรียงกัน ที่มัสยิดใกล้บ้านหรือสถานที่ที่จัดให้มีพิธีละหมาด
โอกาสนี้ นายสามารถ วราศิศัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ส่งความปรารถนาดีเนื่องในโอกาสเทศกาลฮารีรายอ อีดิลฟิตรี ฮิจเราะฮ์ศักราช 1436 โดยขอบารมีองค์อัลเลาะห์ให้คุ้มครอง ประทานพรให้กับชาวไทยมุสลิมให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีความสุข ความเจริญ คิดและประสงค์สิ่งใดก็ขอให้ได้สมความปรารถนา
ทั้งนี้ หลังการละหมาดเสร็จสิ้น เครือข่ายองกรมุสลิมชุมชนและมัสยิดจังหวัดยะลา ได้แจกจดหมายเปิดผนึก ซึ่งเขียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้รัฐบาลทบทวนนโยบายการส่งกลับผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ โดยยึดหลักสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน และคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยในจดหมายฉบับดังกล่าวได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยตั้งคณะกรรมการร่วมติดตามดำเนินคดีของรัฐบาลจีนต่อผู้ลี้ภัยชายอุยกูร์ โดยให้มีตัวแทนจากองค์กรสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ รัฐบาลต้องระงับการส่งกลับชาวอุยกูร์ที่ยังคงเหลืออยู่ในประเทศไทย รวมทั้งขอให้รัฐบาลยึดหลักเมตตาธรรมในการปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ในประเทศไทย
สำหรับการละหมาดวันอีดิลฟิตรี ซึ่งจะตรงกับวันที่ 1 เดือนเซาวาล เป็นเดือนที่ 10 ของเดือนในศาสนาอิสลาม โดยถือทางจันทรคติ การละหมาดวันอีดิลฟิตรี ถือเป็นการปฏิบัติศาสนกิจที่มีความสำคัญต่อชาวไทยมุสลิมเป็นอย่างมาก มุสลิมทุกเพศทุกวัยทั้งชายหญิง จะต้องไปร่วมกันละหมาด โดยพร้อมเพรียงกัน ที่มัสยิดใกล้บ้านหรือสถานที่ที่จัดให้มีพิธีละหมาด
โอกาสนี้ นายสามารถ วราศิศัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ส่งความปรารถนาดีเนื่องในโอกาสเทศกาลฮารีรายอ อีดิลฟิตรี ฮิจเราะฮ์ศักราช 1436 โดยขอบารมีองค์อัลเลาะห์ให้คุ้มครอง ประทานพรให้กับชาวไทยมุสลิมให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีความสุข ความเจริญ คิดและประสงค์สิ่งใดก็ขอให้ได้สมความปรารถนา
ทั้งนี้ หลังการละหมาดเสร็จสิ้น เครือข่ายองกรมุสลิมชุมชนและมัสยิดจังหวัดยะลา ได้แจกจดหมายเปิดผนึก ซึ่งเขียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้รัฐบาลทบทวนนโยบายการส่งกลับผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ โดยยึดหลักสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน และคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยในจดหมายฉบับดังกล่าวได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยตั้งคณะกรรมการร่วมติดตามดำเนินคดีของรัฐบาลจีนต่อผู้ลี้ภัยชายอุยกูร์ โดยให้มีตัวแทนจากองค์กรสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ รัฐบาลต้องระงับการส่งกลับชาวอุยกูร์ที่ยังคงเหลืออยู่ในประเทศไทย รวมทั้งขอให้รัฐบาลยึดหลักเมตตาธรรมในการปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ในประเทศไทย