ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 16 ก.ค. ในแดนบวก โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 70.08 จุด หรือ 0.39% ปิดที่ 18,120.25 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 16.89 จุด หรือ 0.80% ปิดที่ 2,124.29 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 64.24 จุด หรือ 1.26% ปิดที่ 5,163.18 จุด โดยที่แนสแด็กปิดที่นิวไฮใหม่ หลังจากข่าวผลประกอบการของ เน็ตฟลิกซ์ ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นเป็นวงกว้าง
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า รัฐสภากรีซมีมติอนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปเศรษฐกิจฉบับใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงกับเจ้าหนี้ยูโรโซนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่ ซึ่งจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้และไม่ต้องออกจากยูโรโซน
ทั้งนี้ รัฐสภากรีซมีมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 229 เสียง จากจำนวนสมาชิกรัฐสภา 299 คน ให้ผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปเศรษฐกิจฉบับใหม่ ซึ่งจะปูทางให้กรีซมีคุณสมบัติที่จะรับความช่วยเหลือด้านการเงินรอบที่ 3 และจะทำให้รัฐบาลสามารถบังคับใช้กฎหมายการปฏิรูประบบการจัดเก็บภาษีและการจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศเพิ่มวงเงินกู้ฉุกเฉินให้แก่ธนาคารกรีซอีก 900 ล้านยูโร (989 ล้านดอลลาร์) เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ตามคำร้องขอของธนาคารกลางกรีซ
ขณะที่สหภาพยุโรป (EU) เห็นพ้องในหลักการที่จะปล่อยเงินกู้ระยะสั้นวงเงิน 7 พันล้านยูโร (7.65 พันล้านดอลลาร์) แก่กรีซแล้ว เพื่อให้กรีซสามารถชำระหนี้เงินกู้ 3.5 พันล้านยูโรแก่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันจันทร์หน้า
ส่วนสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันในการแถลงต่อสภาคองเกรสวันที่สองว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 3.5 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ 1,143.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเป็นผลมาจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ปรับตัวสูงขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 50 เซนต์ ปิดที่ 50.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ ปิดที่ 57.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า รัฐสภากรีซมีมติอนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปเศรษฐกิจฉบับใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงกับเจ้าหนี้ยูโรโซนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่ ซึ่งจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้และไม่ต้องออกจากยูโรโซน
ทั้งนี้ รัฐสภากรีซมีมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 229 เสียง จากจำนวนสมาชิกรัฐสภา 299 คน ให้ผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปเศรษฐกิจฉบับใหม่ ซึ่งจะปูทางให้กรีซมีคุณสมบัติที่จะรับความช่วยเหลือด้านการเงินรอบที่ 3 และจะทำให้รัฐบาลสามารถบังคับใช้กฎหมายการปฏิรูประบบการจัดเก็บภาษีและการจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศเพิ่มวงเงินกู้ฉุกเฉินให้แก่ธนาคารกรีซอีก 900 ล้านยูโร (989 ล้านดอลลาร์) เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ตามคำร้องขอของธนาคารกลางกรีซ
ขณะที่สหภาพยุโรป (EU) เห็นพ้องในหลักการที่จะปล่อยเงินกู้ระยะสั้นวงเงิน 7 พันล้านยูโร (7.65 พันล้านดอลลาร์) แก่กรีซแล้ว เพื่อให้กรีซสามารถชำระหนี้เงินกู้ 3.5 พันล้านยูโรแก่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันจันทร์หน้า
ส่วนสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันในการแถลงต่อสภาคองเกรสวันที่สองว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 3.5 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ 1,143.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเป็นผลมาจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ปรับตัวสูงขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 50 เซนต์ ปิดที่ 50.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ ปิดที่ 57.51 ดอลลาร์/บาร์เรล