เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 58 นายชาครีย์ บูรณกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติแหล่งก๊าซธรรมชาติ เจดีเอ เอ-18 ได้แจ้งเลื่อนแผนการซ่อมบำรุงประจำปี เพื่อรักษาระดับความสามารถในการส่งก๊าซฯ ตามสัญญา จากเดิมระหว่างวันที่ 19-23 ก.ค. เป็นวันที่ 21-25 ก.ค. 58 สาเหตุจากสภาพอากาศ โดยไม่มีผลกระทบต่อการเตรียมความพร้อมสำรองเชื้อเพลิง ซึ่งจัดหาไว้เพียงพอ ต่อความต้องการใช้ในพื้นที่ภาคใต้
สำหรับการปิดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ ดังกล่าว ส่งผลให้ปริมาณก๊าซธรรมชาติในระบบขาดหายไปในปริมาณ 420 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งโรงไฟฟ้าจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา จำเป็นต้องหยุดดำเนินการ โดย ปตท. ได้เตรียมความพร้อมจัดเตรียมน้ำมันสำรอง และขนส่งไปยังโรงไฟฟ้าจะนะ และโรงไฟฟ้ากระบี่ ล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงเชื่อมั่นว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้า
พร้อมกันนี้ ปตท.ได้ตั้งทีมติดตามสถานการณ์ประจำวันรายงานแก่ภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดระยะเวลาที่แหล่งก๊าซฯ ดังกล่าว ปิดซ่อมบำรุงอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ปตท.ขอความร่วมมือจากผู้ใช้พลังงานทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ประหยัดการใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะระหว่างเวลา 18.30 – 22.30 น. รวมทั้งร่วมมือปฏิบัติการ 3 ป. ช่วยชาติช่วยประหยัดพลังงาน ได้แก่ "ปิดไฟ ปรับแอร์ ปลดปลั๊ก" ตามแผนการประหยัดพลังงานของกระทรวงพลังงาน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการใช้พลังงานของประเทศ โดย ปตท.จะบริหารสถานการณ์พลังงานในช่วงการปิดซ่อมบำรุงอย่างดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนยังคงมีไฟฟ้าใช้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับการปิดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ ดังกล่าว ส่งผลให้ปริมาณก๊าซธรรมชาติในระบบขาดหายไปในปริมาณ 420 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งโรงไฟฟ้าจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา จำเป็นต้องหยุดดำเนินการ โดย ปตท. ได้เตรียมความพร้อมจัดเตรียมน้ำมันสำรอง และขนส่งไปยังโรงไฟฟ้าจะนะ และโรงไฟฟ้ากระบี่ ล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงเชื่อมั่นว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้า
พร้อมกันนี้ ปตท.ได้ตั้งทีมติดตามสถานการณ์ประจำวันรายงานแก่ภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดระยะเวลาที่แหล่งก๊าซฯ ดังกล่าว ปิดซ่อมบำรุงอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ปตท.ขอความร่วมมือจากผู้ใช้พลังงานทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ประหยัดการใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะระหว่างเวลา 18.30 – 22.30 น. รวมทั้งร่วมมือปฏิบัติการ 3 ป. ช่วยชาติช่วยประหยัดพลังงาน ได้แก่ "ปิดไฟ ปรับแอร์ ปลดปลั๊ก" ตามแผนการประหยัดพลังงานของกระทรวงพลังงาน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการใช้พลังงานของประเทศ โดย ปตท.จะบริหารสถานการณ์พลังงานในช่วงการปิดซ่อมบำรุงอย่างดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนยังคงมีไฟฟ้าใช้อย่างต่อเนื่อง