พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงเคยถูกเรียกตรวจแอลกอฮอล์ถึง 2 ครั้ง เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งระหว่างชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจ แต่ทางเจ้าหน้าที่ประจำด่านก็พยายามให้เป่าเครื่องตรวจแอลกอฮอล์ โดยได้ยืนยันถึง 5 ครั้งว่าไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันจะขอให้ตรวจจึงลงจากรถมาเป่าแอลกอฮอล์ และตำรวจประจำด่านไม่ทราบว่าเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า การตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์อย่างเข้มงวดถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ควรใช้วิจารณญาณในการเรียกตรวจ หากพูดคุยกันเบื้องต้นแล้วไม่ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ก็ควรงดการตรวจ เพื่อไม่ให้ประชาชนเสียเวลา
ก่อนหน้านี้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา พระราชบัญญัติจราจรทางบก มีการแก้ไขข้อความเพิ่มเติม กำหนดให้เจ้าหน้าที่เรียกหรือยื่นอุปกรณ์ให้ผู้ขับรถยนต์เป่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์เพื่อทดสอบ รวมถึงสั่งให้ลงจากรถเพื่อดูว่ารักษาสมดุลทางร่างกายได้หรือไม่ หากผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ทดสอบ ให้สันนิษฐานได้ว่าผู้นั้นเมาสุรา และเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีฐานขับรถขณะเมาสุราได้ ซึ่งตำรวจได้ดำเนินคดีกับหญิงสาวคนหนึ่งแล้ว หลังไม่ยินยอมให้ตำรวจใช้เครื่องมือทดสอบ และศาลแขวงพระนครใต้ สั่งลงโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 8,500 บาท ส่วนโทษจำคุกให้รอลงอาญา และให้บำเพ็ญประโยชน์ 24 ชั่วโมง
พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า การตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์อย่างเข้มงวดถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ควรใช้วิจารณญาณในการเรียกตรวจ หากพูดคุยกันเบื้องต้นแล้วไม่ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ก็ควรงดการตรวจ เพื่อไม่ให้ประชาชนเสียเวลา
ก่อนหน้านี้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา พระราชบัญญัติจราจรทางบก มีการแก้ไขข้อความเพิ่มเติม กำหนดให้เจ้าหน้าที่เรียกหรือยื่นอุปกรณ์ให้ผู้ขับรถยนต์เป่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์เพื่อทดสอบ รวมถึงสั่งให้ลงจากรถเพื่อดูว่ารักษาสมดุลทางร่างกายได้หรือไม่ หากผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ทดสอบ ให้สันนิษฐานได้ว่าผู้นั้นเมาสุรา และเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีฐานขับรถขณะเมาสุราได้ ซึ่งตำรวจได้ดำเนินคดีกับหญิงสาวคนหนึ่งแล้ว หลังไม่ยินยอมให้ตำรวจใช้เครื่องมือทดสอบ และศาลแขวงพระนครใต้ สั่งลงโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 8,500 บาท ส่วนโทษจำคุกให้รอลงอาญา และให้บำเพ็ญประโยชน์ 24 ชั่วโมง