กรณีสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ อายุ 5 เดือน ชื่อโจโก้ หายไปจากบ้าน เมื่อวันที่ 8 ก.ค.2558 แล้วมีผู้พบว่าถูกทำร้าย โดยถูกฟันที่ปากเป็นแผลฉกรรจ์ และที่ร่างกายหลายแห่ง พร้อมถูกนำใส่กระสอบ โดยผู้ใหญ่ดำ บ้านหนองลาด หมู่ 1 ต.หนองลาด อ้างว่าสุนัขตัวดังกล่าวไปกัดเป็ดชาวบ้านจำนวนหลายตัว จึงถูกมีดฟันได้รับบาดเจ็บและถูกนำไปกินแล้ว จนเจ้าของสุนัขได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง
ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.วาริชภูมิ เรียกนายมณีวรรณ บุญล้ำ หรือผู้ใหญ่ดำ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้เสียทรัพย์ และ พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์ ตามที่มีผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของสุนัขแจ้งความไว้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาเวลา 16.00 น. วันที่ 12 ก.ค. ที่ สภ.วาริชภูมิ นายมณีวรรณ บุญล้ำ หรือผู้ใหญ่ดำ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.หนองลาด อ.วาริชภูมิ ได้เข้าพบ ร.ต.ท.ไพทรัพย์ คำเพชร พนักงานสอบสวน สภ.วาริชภูมิ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาผู้ใหญ่ดำ ตามที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของสุนัขเข้าแจ้งความกล่าวหาว่า ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทารุณกรรมสัตว์ และทำให้เสียทรัพย์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากผู้ต้องหาได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเอง ไม่มีพฤติกรรมจะหลบหนี มีหน้าที่การงาน และที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง
ก่อนหน้านั้นนายมณีวรรณ์ บุญล้ำ หรือ ผู้ใหญ่ดำ ผู้ใหญ่บ้านหนองลาด ได้เดินทางเข้าพบนายประทิม โกษาแสง นายอำเภอวาริชภูมิ โดยยอมรับว่าเป็นผู้นำสุนัขไปจริง หลังสุนัขถูกลูกชาย นายสุริยา ภูปานคำ อายุ 49 ปี เจ้าของเป็ด ฟันได้รับบาดเจ็บ พร้อมระบุ ก่อนหน้านั้นเจ้าของเป็ดได้ยินเสียงเป็ดร้อง และคิดว่าเป็นคนร้าย จึงแจ้งตนให้มาตรวจสอบ จนพบว่าเป็นสุนัข ถูกฟันหลายแห่งวิ่งหลบหนีไป จนรุ่งเช้าตามรอยเลือดไปจนพบสุนัขเข้าไปหลบอยู่บ้านของลูกบ้านรายหนึ่ง ห่างจากคอกเป็ดประมาณ 100 เมตร จึงไปจับมาให้เจ้าของเป็ด และกลับบ้าน
ส่วนเป็ด 40 ตัวที่ถูกกัดแบบยกเล้า ได้แบ่งกับเพื่อนบ้านไปกินจนหมด ซึ่งขณะนำสุนัขมานั้น ได้ประกาศเสียงตามสายไปแล้ว พร้อมทั้งได้ให้ผู้ใหญ่บ้านใกล้เคียงประกาศให้ด้วย แต่ไม่มีผู้มาแสดงตัวรับผิดชอบ และไม่ทราบว่าหลังจากนั้นสุนัขตัวดังกล่าวจะเป็นอย่างไร กระทั่งมาทราบภายหลังว่า สุนัขได้ตายลง และมีการไปแจ้งความจะเอาผิดตน ซึ่งข่าวที่ออกมาทำให้ตนรู้สึกท้อแท้ เพราะที่ผ่านมาทำแต่ความดีไม่เคยมีเรื่องเสียหาย มาเจอกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเช่นนี้ ทำให้หมดกำลังใจ จึงขอความเป็นธรรมให้กับตนด้วย
ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.วาริชภูมิ เรียกนายมณีวรรณ บุญล้ำ หรือผู้ใหญ่ดำ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้เสียทรัพย์ และ พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์ ตามที่มีผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของสุนัขแจ้งความไว้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาเวลา 16.00 น. วันที่ 12 ก.ค. ที่ สภ.วาริชภูมิ นายมณีวรรณ บุญล้ำ หรือผู้ใหญ่ดำ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.หนองลาด อ.วาริชภูมิ ได้เข้าพบ ร.ต.ท.ไพทรัพย์ คำเพชร พนักงานสอบสวน สภ.วาริชภูมิ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาผู้ใหญ่ดำ ตามที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของสุนัขเข้าแจ้งความกล่าวหาว่า ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทารุณกรรมสัตว์ และทำให้เสียทรัพย์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากผู้ต้องหาได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเอง ไม่มีพฤติกรรมจะหลบหนี มีหน้าที่การงาน และที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง
ก่อนหน้านั้นนายมณีวรรณ์ บุญล้ำ หรือ ผู้ใหญ่ดำ ผู้ใหญ่บ้านหนองลาด ได้เดินทางเข้าพบนายประทิม โกษาแสง นายอำเภอวาริชภูมิ โดยยอมรับว่าเป็นผู้นำสุนัขไปจริง หลังสุนัขถูกลูกชาย นายสุริยา ภูปานคำ อายุ 49 ปี เจ้าของเป็ด ฟันได้รับบาดเจ็บ พร้อมระบุ ก่อนหน้านั้นเจ้าของเป็ดได้ยินเสียงเป็ดร้อง และคิดว่าเป็นคนร้าย จึงแจ้งตนให้มาตรวจสอบ จนพบว่าเป็นสุนัข ถูกฟันหลายแห่งวิ่งหลบหนีไป จนรุ่งเช้าตามรอยเลือดไปจนพบสุนัขเข้าไปหลบอยู่บ้านของลูกบ้านรายหนึ่ง ห่างจากคอกเป็ดประมาณ 100 เมตร จึงไปจับมาให้เจ้าของเป็ด และกลับบ้าน
ส่วนเป็ด 40 ตัวที่ถูกกัดแบบยกเล้า ได้แบ่งกับเพื่อนบ้านไปกินจนหมด ซึ่งขณะนำสุนัขมานั้น ได้ประกาศเสียงตามสายไปแล้ว พร้อมทั้งได้ให้ผู้ใหญ่บ้านใกล้เคียงประกาศให้ด้วย แต่ไม่มีผู้มาแสดงตัวรับผิดชอบ และไม่ทราบว่าหลังจากนั้นสุนัขตัวดังกล่าวจะเป็นอย่างไร กระทั่งมาทราบภายหลังว่า สุนัขได้ตายลง และมีการไปแจ้งความจะเอาผิดตน ซึ่งข่าวที่ออกมาทำให้ตนรู้สึกท้อแท้ เพราะที่ผ่านมาทำแต่ความดีไม่เคยมีเรื่องเสียหาย มาเจอกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเช่นนี้ ทำให้หมดกำลังใจ จึงขอความเป็นธรรมให้กับตนด้วย