พล.ต.อ. เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางรัก ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวสมาชิกแก๊งพลอยแก้ว ผู้ต้องหาคดีวิ่งราวทรัพย์ในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร โดยเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวชายวัยรุ่นอายุ 18 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาในคดีวิ่งราวทรัพย์ ก่อเหตุเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 08.45 น. ผู้ต้องหาคนที่ถูกจับได้ พร้อมเพื่อนอีกคนที่ยังหลบหนี ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ บริเวณปากคลองตลาด ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ สน.พระราชวัง ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองหนัก 1 บาท จำนวน 1 องค์ ราคาประมาณ 40,000 บาท
ต่อมา เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน เวลาประมาณ 08.46 น. ผู้ต้องหากลุ่มเดิมได้ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำ-น้ำตาล (ทอง) ล้อแม็กสีดำ ศอป 739 กทม. (ทะเบียนปลอม) ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น บริเวณหน้าโรงแรมมาร์ ถนนสุรวงศ์ ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ สน.บางรัก ก่อนหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ติดตามจับกุมคนร้าย พบว่าผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนที่หลบหนี เป็นคนขับรถ และคนร้ายที่ถูกจับได้ เป็นคนซ้อนท้ายและกระชากสร้อยคอทองคำ โดยคนร้ายทั้งสองได้เป็นสมาชิกแก๊งพลอยแก้ว ซึ่งสามารถจับกุมสมาชิกได้ไปแล้ว 6 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประสานขอข้อมูลจากจาก สน.ใกล้เคียง จนพบว่าคนร้ายดังกล่าวได้ตระเวนก่อเหตุหลายครั้ง ในเขตพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 และยังตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาที่จับได้มีหมายจับในคดีของ สน.ต่างๆ จำนวน 8 หมาย โดยหลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 318/14 หมู่ 11 อ.บางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่จับได้เมื่อวานนี้ (10 ก.ค.) เวลาประมาณ 14.00 น. ในข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้พาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิด ฯ พร้อมของกลาง คือ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำ-น้ำตาล (ทอง) หมายเลขทะเบียน 2กณ 3537 กทม. จำนวน 1 คัน เสื้อยืดกางเกงขาสั้นสีขาว จำนวน 1 ตัว กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน จำนวน 1 ตัว รองเท้าแตะ จำนวน 1 คู่
จากการสอบสวนขยายผล ผู้ต้องหาได้รับการสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำ โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการกระทำความผิดและหลบหนีในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มาตั้งแต่ พ.ศ.2556 ต่อเนื่อง มาจนกระทั่งถูกจับกุม ไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง หากผู้เสียหายคนใดที่ประสบเหตุถูกวิ่งราวในลักษณะดังกล่าว สามารถติดต่อขอดูตัวผู้ต้องหาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวได้ที่ สน.พระราชวัง และ สน.บางรัก และจะติดตามผู้เสียหายที่ได้ร้องทุกข์ไว้มาชี้ยืนยันตัวผู้ต้องหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ต้องหาอีกรายตำรวจจะดำเนินการติดตามตัวต่อไป
ต่อมา เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน เวลาประมาณ 08.46 น. ผู้ต้องหากลุ่มเดิมได้ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำ-น้ำตาล (ทอง) ล้อแม็กสีดำ ศอป 739 กทม. (ทะเบียนปลอม) ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น บริเวณหน้าโรงแรมมาร์ ถนนสุรวงศ์ ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ สน.บางรัก ก่อนหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ติดตามจับกุมคนร้าย พบว่าผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนที่หลบหนี เป็นคนขับรถ และคนร้ายที่ถูกจับได้ เป็นคนซ้อนท้ายและกระชากสร้อยคอทองคำ โดยคนร้ายทั้งสองได้เป็นสมาชิกแก๊งพลอยแก้ว ซึ่งสามารถจับกุมสมาชิกได้ไปแล้ว 6 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประสานขอข้อมูลจากจาก สน.ใกล้เคียง จนพบว่าคนร้ายดังกล่าวได้ตระเวนก่อเหตุหลายครั้ง ในเขตพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 และยังตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาที่จับได้มีหมายจับในคดีของ สน.ต่างๆ จำนวน 8 หมาย โดยหลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 318/14 หมู่ 11 อ.บางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่จับได้เมื่อวานนี้ (10 ก.ค.) เวลาประมาณ 14.00 น. ในข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้พาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิด ฯ พร้อมของกลาง คือ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำ-น้ำตาล (ทอง) หมายเลขทะเบียน 2กณ 3537 กทม. จำนวน 1 คัน เสื้อยืดกางเกงขาสั้นสีขาว จำนวน 1 ตัว กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน จำนวน 1 ตัว รองเท้าแตะ จำนวน 1 คู่
จากการสอบสวนขยายผล ผู้ต้องหาได้รับการสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำ โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการกระทำความผิดและหลบหนีในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มาตั้งแต่ พ.ศ.2556 ต่อเนื่อง มาจนกระทั่งถูกจับกุม ไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง หากผู้เสียหายคนใดที่ประสบเหตุถูกวิ่งราวในลักษณะดังกล่าว สามารถติดต่อขอดูตัวผู้ต้องหาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวได้ที่ สน.พระราชวัง และ สน.บางรัก และจะติดตามผู้เสียหายที่ได้ร้องทุกข์ไว้มาชี้ยืนยันตัวผู้ต้องหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ต้องหาอีกรายตำรวจจะดำเนินการติดตามตัวต่อไป