พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของนักศึกษาว่า การเคลื่อนไหวหลังจากนี้รัฐบาลเปิดพื้นที่ให้อยู่แล้ว ซึ่งมีกรอบของกฎหมายอยู่ ซึ่งที่จริงแล้ว รัฐบาลก็นำเอาหลักรัฐศาสตร์เข้ามาใช้ ผิดนิดผิดหน่อยก็ปล่อยไปบ้าง แต่ถ้าเกิดแรงขึ้นก็ต้องเรียกมาพูดคุยบ้าง อย่างการจุดเทียนทั้งที่หน้าเรือนจำ หรือที่อื่นๆ ซึ่งเป็นการชุมนุมเกิน 5 คน ซึ่งหากเอาเข้าจริงมันก็ผิดกฎหมาย เพราะเกิน 5 คน ที่ผ่านมาก็เอารัฐศาสตร์เข้ามาใช้ ถ้าไปจับแล้ว จะทำให้เกิดความตรึงจนเกินไป ซึ่งรัฐบาลก็ไม่ใช่ขนาดนั้น
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ความจริงแล้วนักศึกษาที่มีอดุมการณ์ความคิดแบบนี้ เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ในอนาคตสามารถเป็นนายกรัฐมนตรี และเชื่อว่าอีกว่าไม่นานคนรุ่นตนอาจจะได้เห็นก็ได็ เพราะในต่างประเทศอายุ 40 กว่าๆ ก็เป็นนายกรัฐมนตรีได้
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ช่วงก่อนหน้านี้หลังทำรัฐประหารตนได้เข้าไปพูดคุยกับนักศึกษที่เคลื่อนไหว ไปด้วยตนเอง และได้พูดคุยอย่างที่บอกไปว่า ตอนนี้บ้านเมืองเกิดปัญหาอะไรที่ผ่านมาไม่มีใครผิด ใครถูก แต่ปัญหาด้วยข้อกฎหมาย ที่เข้ามาแค่ต้องการปลดล็อคและแก้ปัญหา ซึ่งกลุ่มนักศึกษาก็เข้าใจ และยังบอกว่าอยากให้ยึดอดุมการณ์ อย่าให้ใครซื้อเพราะถ้าวันนี้ถูกซื้อ ในอนาคตต่อไปเป็นนักการก็จะถูกซื้อ ไม่อยากให้เสพติดกับผลประโยชน์
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ความจริงแล้วนักศึกษาที่มีอดุมการณ์ความคิดแบบนี้ เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ในอนาคตสามารถเป็นนายกรัฐมนตรี และเชื่อว่าอีกว่าไม่นานคนรุ่นตนอาจจะได้เห็นก็ได็ เพราะในต่างประเทศอายุ 40 กว่าๆ ก็เป็นนายกรัฐมนตรีได้
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ช่วงก่อนหน้านี้หลังทำรัฐประหารตนได้เข้าไปพูดคุยกับนักศึกษที่เคลื่อนไหว ไปด้วยตนเอง และได้พูดคุยอย่างที่บอกไปว่า ตอนนี้บ้านเมืองเกิดปัญหาอะไรที่ผ่านมาไม่มีใครผิด ใครถูก แต่ปัญหาด้วยข้อกฎหมาย ที่เข้ามาแค่ต้องการปลดล็อคและแก้ปัญหา ซึ่งกลุ่มนักศึกษาก็เข้าใจ และยังบอกว่าอยากให้ยึดอดุมการณ์ อย่าให้ใครซื้อเพราะถ้าวันนี้ถูกซื้อ ในอนาคตต่อไปเป็นนักการก็จะถูกซื้อ ไม่อยากให้เสพติดกับผลประโยชน์