ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กล่าวถึงกรณีศาลทหารไม่อนุญาตให้ฝากขัง 14 นักศึกษาเป็นผัดที่ 2 เนื่องจากไม่มีความจำเป็นว่า ตามกระบวนการเรือนจำจะต้องควบคุมตัวผู้ต้องขังให้ครบฝากขังผัดแรก 12 วัน ซึ่งผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวในวันที่ 26 มิ.ย. จะครบกำหนด 12 วันในเวลา 24.00 น.ของวันที่ 7 ก.ค. แต่โดยปกติเรือนจำจะไม่ปล่อยตัวในยามวิกาล จึงต้องปล่อยตัวในช่วงเช้าวันถัดไป คาดว่าจะปล่อยตัวทั้งหมดได้ในเวลาประมาณ 06.00 น. ซึ่งทั้งหมดถูกส่งตัวกลับเข้าเรือนจำแล้วเรียบร้อย ทุกคนเป็นปกติดีต่างแยกย้ายเข้าแดนเพื่อรอปล่อยตัว
สำหรับกรณีที่กลุ่มสนับสนุนเตรียมทำกิจกรรมต้อนรับการปล่อยตัวนั้น เบื้องต้นเรือนจำไม่อนุญาตให้ทำกิจกรรมหน้าเรือนจำ แต่หากจะมีการทำกิจกรรมด้านนอกก็ถือเป็นหน้าที่ตำรวจในการดูแลความเรียบร้อย
ขณะที่นายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรณีนี้ศาลทหารยกคำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวน จึงเท่ากับหมายขังที่มีอยู่ผัดแรกใช้ได้ตามที่สั่งคือ 12 วัน เรือนจำรับตัวมาวันที่ 26 มิ.ย. ครบฝากขัง 12 วันคือวันที่ 7 ก.ค. จึงต้องปล่อยตัวในเช้าวันนี้ (8 ก.ค.)
ล่าสุดเมื่อเวลา 05.45 น.ที่ผ่านมา กลุ่มนักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ทั้ง 14 คน ที่ถูกคุมขังได้ถูกปล่อยออกจากเรือนจำกรุงเทพฯ แล้ว ตามคำสั่งศาลทหารที่สั่งให้ปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไข โดยได้มีญาติและเพื่อนมารอรับที่ด้านหน้าเรือนจำ ซึ่งทั้งหมดได้ทำกิจกรรมก่อนที่จะแยกย้ายเดินทางกลับ ในเวลา 07.00 น.
ทั้งนี้ในส่วนของคดีพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนคดีให้อัยการทหาร ซึ่งถ้าพิจารณาสั่งฟ้องก็จะเข้าสู่กระบวนการ ที่ศาลทหารจะวินิจฉัยว่าจะสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องต่อไป
สำหรับข้อกล่าวหานักศึกษา 14 คน คือการเคลื่อนไหวต่อต้าน คสช. เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน เป็นการรวมตัวชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ซึ่งขัดคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และขัดกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี
ส่วนการพิจารณาคำร้องขอฝากขังผัดที่ 2 เมื่อวานนี้ (7ก.ค.) มีผู้สังเกตการณ์จากสถานเอกอัครราชทูต 6 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส, และเนเธอร์แลนด์ รวมถึงผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย และแอนเนสตี้ อินเตอร์แนชั่นแนล เข้าร่วมรับฟังการไต่สวน
สำหรับกรณีที่กลุ่มสนับสนุนเตรียมทำกิจกรรมต้อนรับการปล่อยตัวนั้น เบื้องต้นเรือนจำไม่อนุญาตให้ทำกิจกรรมหน้าเรือนจำ แต่หากจะมีการทำกิจกรรมด้านนอกก็ถือเป็นหน้าที่ตำรวจในการดูแลความเรียบร้อย
ขณะที่นายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรณีนี้ศาลทหารยกคำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวน จึงเท่ากับหมายขังที่มีอยู่ผัดแรกใช้ได้ตามที่สั่งคือ 12 วัน เรือนจำรับตัวมาวันที่ 26 มิ.ย. ครบฝากขัง 12 วันคือวันที่ 7 ก.ค. จึงต้องปล่อยตัวในเช้าวันนี้ (8 ก.ค.)
ล่าสุดเมื่อเวลา 05.45 น.ที่ผ่านมา กลุ่มนักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ทั้ง 14 คน ที่ถูกคุมขังได้ถูกปล่อยออกจากเรือนจำกรุงเทพฯ แล้ว ตามคำสั่งศาลทหารที่สั่งให้ปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไข โดยได้มีญาติและเพื่อนมารอรับที่ด้านหน้าเรือนจำ ซึ่งทั้งหมดได้ทำกิจกรรมก่อนที่จะแยกย้ายเดินทางกลับ ในเวลา 07.00 น.
ทั้งนี้ในส่วนของคดีพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนคดีให้อัยการทหาร ซึ่งถ้าพิจารณาสั่งฟ้องก็จะเข้าสู่กระบวนการ ที่ศาลทหารจะวินิจฉัยว่าจะสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องต่อไป
สำหรับข้อกล่าวหานักศึกษา 14 คน คือการเคลื่อนไหวต่อต้าน คสช. เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน เป็นการรวมตัวชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ซึ่งขัดคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และขัดกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี
ส่วนการพิจารณาคำร้องขอฝากขังผัดที่ 2 เมื่อวานนี้ (7ก.ค.) มีผู้สังเกตการณ์จากสถานเอกอัครราชทูต 6 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส, และเนเธอร์แลนด์ รวมถึงผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย และแอนเนสตี้ อินเตอร์แนชั่นแนล เข้าร่วมรับฟังการไต่สวน