นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ร.ฟ.ท.จะนำโครงการนำร่องประกันภัยให้แก่ผู้โดยสารและพนักงานของ ร.ฟ.ท.ที่โดยสารและปฏิบัติหน้าที่บนขบวนรถไฟมาบังคับใช้ เพื่อให้ความคุ้มครองในชีวิตและทรัพย์สินแก่ผู้ใช้บริการและพนักงาน ร.ฟ.ท.กรณีได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถไฟ รวมทั้งรับผิดชอบค่าใช้จ่ายกรณีการบาดเจ็บหรือทุพพลภาพที่เกิดขึ้น
ขณะนี้คณะกรรมการทีโออาร์อยู่ระหว่างเร่งจัดทำรายละเอียดทีโออาร์ เพื่อเปิดประมูลคัดเลือกผู้รับประกันภัย คาดว่าจะเปิดประมูลเดือนกรกฎาคมนี้ ตั้งเป้าคัดเลือกผู้ชนะการประมูลให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 2 เดือน เพื่อให้โครงการสามารถเปิดตัวได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป เพื่อให้ความคุ้มครองแก่ผู้โดยสารได้ทันช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ประชาชนจำนวนมากจะเดินทางกลับบ้านไปฉลองปีใหม่
ทั้งนี้ เมื่อซื้อประกันภัย หากเกิดอุบัติเหตุ บริษัทประกันภัยจะเข้ามารับภาระจ่ายค่าชดเชยให้ผู้โดยสารแทน ร.ฟ.ท.ซึ่งถือว่าคุ้มค่ากว่าปัจจุบันที่รถไฟต้องจ่ายค่าเสียหายเอง
นายปาณฑพ มาลากุล ณ อยุธยา หัวหน้าหน่วยธุรกิจการเดินรถ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า การทำประกันภัยในโครงการนี้จะให้ความคุ้มครองทั้งกรณีอุบัติเหตุและเสียชีวิต กรณีเสียชีวิตจะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละไม่เกิน 3 แสนบาท ส่วนกรณีได้รับบาดเจ็บจะได้รับชดเชยค่ารักษาพยาบาลรายละไม่เกิน 3 หมื่นบาท ความคุ้มครองจะครอบคลุมไปยังผู้โดยสารทุกคนที่นั่งอยู่บนรถไฟ ทั้งผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วรถไฟ หรือผู้โดยสารที่โดยสารรถไฟฟรีด้วย
ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ ร.ฟ.ท.มีการจัดการทำประกันภัยให้กับผู้โดยสาร ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถไฟ สามารถได้รับความคุ้มครองในรูปแบบของเงินชดเชยในเวลาอันรวดเร็วขึ้น ไม่ต้องรอขอรับเงินชดเชยจาก ร.ฟ.ท.ที่เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่มีขั้นตอนการจ่ายเงินล่าช้า รวมทั้งยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับ ร.ฟ.ท.อีกด้วย
ขณะนี้คณะกรรมการทีโออาร์อยู่ระหว่างเร่งจัดทำรายละเอียดทีโออาร์ เพื่อเปิดประมูลคัดเลือกผู้รับประกันภัย คาดว่าจะเปิดประมูลเดือนกรกฎาคมนี้ ตั้งเป้าคัดเลือกผู้ชนะการประมูลให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 2 เดือน เพื่อให้โครงการสามารถเปิดตัวได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป เพื่อให้ความคุ้มครองแก่ผู้โดยสารได้ทันช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ประชาชนจำนวนมากจะเดินทางกลับบ้านไปฉลองปีใหม่
ทั้งนี้ เมื่อซื้อประกันภัย หากเกิดอุบัติเหตุ บริษัทประกันภัยจะเข้ามารับภาระจ่ายค่าชดเชยให้ผู้โดยสารแทน ร.ฟ.ท.ซึ่งถือว่าคุ้มค่ากว่าปัจจุบันที่รถไฟต้องจ่ายค่าเสียหายเอง
นายปาณฑพ มาลากุล ณ อยุธยา หัวหน้าหน่วยธุรกิจการเดินรถ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า การทำประกันภัยในโครงการนี้จะให้ความคุ้มครองทั้งกรณีอุบัติเหตุและเสียชีวิต กรณีเสียชีวิตจะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละไม่เกิน 3 แสนบาท ส่วนกรณีได้รับบาดเจ็บจะได้รับชดเชยค่ารักษาพยาบาลรายละไม่เกิน 3 หมื่นบาท ความคุ้มครองจะครอบคลุมไปยังผู้โดยสารทุกคนที่นั่งอยู่บนรถไฟ ทั้งผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วรถไฟ หรือผู้โดยสารที่โดยสารรถไฟฟรีด้วย
ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ ร.ฟ.ท.มีการจัดการทำประกันภัยให้กับผู้โดยสาร ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถไฟ สามารถได้รับความคุ้มครองในรูปแบบของเงินชดเชยในเวลาอันรวดเร็วขึ้น ไม่ต้องรอขอรับเงินชดเชยจาก ร.ฟ.ท.ที่เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่มีขั้นตอนการจ่ายเงินล่าช้า รวมทั้งยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับ ร.ฟ.ท.อีกด้วย
