นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีการระบายมันสำปะหลัง (มันเส้น) แบบจีทูจี ซึ่งมีการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง ว่าคดีนี้จะสามารถสรุปได้รวดเร็ว เนื่องจากใช้โมเดลเดียวกันกับคดีระบายข้าวจีทูจีที่มีการชี้มูลความผิดไปแล้ว และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดิม ดังนั้นคาดว่าจะสรุปได้ในอีกไม่นานนี้
พร้อมกันนี้ นายวิชา กล่าวถึงคดีโครงการประกันราคาข้าว สมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการร้องขอให้ถอดถอน นางพรทิวา นาคาศัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับพวก กรณีส่อทุจริต และเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนว่า ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคดีแล้ว และคาดว่าจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งสาเหตุที่ล่าช้าเนื่องจากเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ติดขัดปัญหาบางประการ แต่ขณะนี้ได้พูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว
นายวิชา กล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องในการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยมิชอบ ในส่วนที่เหลือหลังจากชี้มูลความผิด นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กับพวก ว่า ขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานเสร็จเรียบร้อย และทุกบริษัทได้เข้ามาชี้แจงกับคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. เรียบร้อยแล้ว โดยคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. เตรียมจะสรุปคดี เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติและส่งสำนวนการไต่สวนให้กับอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อรวมกับสำนวนของ นายบุญทรง กับพวก ที่ถูกฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นอกจากนี้ ทางศาลฎีกาฯ เองได้เร่งรัดขอสำนวนเอกชนที่เหลือประมาณ 90 ราย ต่อ ป.ป.ช. ด้วยเช่นกัน
พร้อมกันนี้ นายวิชา กล่าวถึงคดีโครงการประกันราคาข้าว สมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการร้องขอให้ถอดถอน นางพรทิวา นาคาศัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับพวก กรณีส่อทุจริต และเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนว่า ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคดีแล้ว และคาดว่าจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งสาเหตุที่ล่าช้าเนื่องจากเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ติดขัดปัญหาบางประการ แต่ขณะนี้ได้พูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว
นายวิชา กล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องในการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยมิชอบ ในส่วนที่เหลือหลังจากชี้มูลความผิด นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กับพวก ว่า ขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานเสร็จเรียบร้อย และทุกบริษัทได้เข้ามาชี้แจงกับคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. เรียบร้อยแล้ว โดยคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. เตรียมจะสรุปคดี เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติและส่งสำนวนการไต่สวนให้กับอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อรวมกับสำนวนของ นายบุญทรง กับพวก ที่ถูกฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นอกจากนี้ ทางศาลฎีกาฯ เองได้เร่งรัดขอสำนวนเอกชนที่เหลือประมาณ 90 ราย ต่อ ป.ป.ช. ด้วยเช่นกัน