รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ตชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น.พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ ผบก.น.2 พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผกก.สส.บก.น.2 แถลงผลการจับกุม นายชัวเรส พินีรอส เจอแมน อายุ 30 ปี นายหลุยโพวีดา โรเบน โนเบอโต อายุ 31 ปี และนายควินเทโร มอนเตนิโก หลุยจาร์แลน อายุ 30 ปี ทั้งหมดเป็นชาวโคลอมเบีย พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ และทรัพย์สินมีค่าประเภทเครื่องประดับ และทองรูปพรรณหลายรายการ รถเก๋งนิสสัน ทีด้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฌค 9204 กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีเหตุคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ยกตู้เซฟภายในบ้านเลขที่ 70/246 หมู่บ้านชลลดา โครงการรามอินทรา ซอย 1 กาญจนาภิเษก 7 ถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก แขวง-เขตคันนายาว ของนายประพันธ์ คูณมี อายุ 61 ปี ประธาน และทนายความ บ.อมรินทร์กฎหมายและการบัญชี จก. อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปี 2549 และอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ทรัพย์สินไปหลายล้านบาท
จากแนวทางการสืบสวนพบอีกว่า กลุ่มผู้ต้องหาเคยก่อเหตุลักทรัพย์บ้านเลขที่ 44/195 หมู่บ้านอมรินทร์ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ซึ่งเป็นบ้านของนางวาสินา วิเศษกุล พนักงานธนาคารกรุงเทพได้ทรัพย์สินเป็นแหวนทองคำ และทรัพย์สินอื่น ๆ ก่อนหลบหนีไป จากการสอบสวนทั้งหมดให้การภาคเสธอ้างว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของเพื่อนชาวโคลอมเบียนำมาฝากไว้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังคงไม่ปักใจเชื่อ ซึ่งจะต้องดำเนินการสอบสวนอีกครั้ง และติดตามตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีไปได้อีก 1 ราย เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนฯ และรับของโจร ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขนดำเนินคดี
ด้านนายประพันธ์ กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุนั้นตนได้รับทราบเรื่องเมื่อประมาณช่วงเช้า โดยแม่บ้านโทรฯมาแจ้งว่ามีโจรบุกเข้ามาขโมยของภายในบ้าน ตรวจสอบพบว่าคนร้ายยกตู้เซฟที่อยู่ภายในห้องนอนของภรรยาไป โดยคาดว่าขณะที่กลุ่นคนร้ายได้ขนตู้เซฟจากชั้น 2 ลงไปข้างล่าง ซึ่งเมื่อตรวจสอบภายในห้องพบมีฝาครอบของโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง ฮีโร่ ตกอยู่บริเวณในห้องนอน ในฝาครอบโทรศัพท์บังเอิญมีเบอร์โทรศัพท์ติดอยู่ คาดว่าจะเป็นของคนร้าย จึงเอาฝาครอบโทรศัพท์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจสอบรายละเอียด กระทั่งสืบสวนจากเบอร์โทรศัพท์ทราบว่าผู้ต้องหาใช้โทรศัพท์อยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จึงตามไปตามจับตัวได้ในที่สุด โดยสิ่งที่ผู้ต้องหาได้ขโมยไปนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นพวกพระเครื่องเลี่ยมทองประมาณ 20-30 องค์ อาทิ พระสมเด็จ หลวงปู่ทวด เป็นต้น มีมูลค่าประมาณหลายสิบล้านบาท
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีเหตุคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ยกตู้เซฟภายในบ้านเลขที่ 70/246 หมู่บ้านชลลดา โครงการรามอินทรา ซอย 1 กาญจนาภิเษก 7 ถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก แขวง-เขตคันนายาว ของนายประพันธ์ คูณมี อายุ 61 ปี ประธาน และทนายความ บ.อมรินทร์กฎหมายและการบัญชี จก. อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปี 2549 และอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ทรัพย์สินไปหลายล้านบาท
จากแนวทางการสืบสวนพบอีกว่า กลุ่มผู้ต้องหาเคยก่อเหตุลักทรัพย์บ้านเลขที่ 44/195 หมู่บ้านอมรินทร์ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ซึ่งเป็นบ้านของนางวาสินา วิเศษกุล พนักงานธนาคารกรุงเทพได้ทรัพย์สินเป็นแหวนทองคำ และทรัพย์สินอื่น ๆ ก่อนหลบหนีไป จากการสอบสวนทั้งหมดให้การภาคเสธอ้างว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของเพื่อนชาวโคลอมเบียนำมาฝากไว้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังคงไม่ปักใจเชื่อ ซึ่งจะต้องดำเนินการสอบสวนอีกครั้ง และติดตามตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีไปได้อีก 1 ราย เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนฯ และรับของโจร ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขนดำเนินคดี
ด้านนายประพันธ์ กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุนั้นตนได้รับทราบเรื่องเมื่อประมาณช่วงเช้า โดยแม่บ้านโทรฯมาแจ้งว่ามีโจรบุกเข้ามาขโมยของภายในบ้าน ตรวจสอบพบว่าคนร้ายยกตู้เซฟที่อยู่ภายในห้องนอนของภรรยาไป โดยคาดว่าขณะที่กลุ่นคนร้ายได้ขนตู้เซฟจากชั้น 2 ลงไปข้างล่าง ซึ่งเมื่อตรวจสอบภายในห้องพบมีฝาครอบของโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง ฮีโร่ ตกอยู่บริเวณในห้องนอน ในฝาครอบโทรศัพท์บังเอิญมีเบอร์โทรศัพท์ติดอยู่ คาดว่าจะเป็นของคนร้าย จึงเอาฝาครอบโทรศัพท์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจสอบรายละเอียด กระทั่งสืบสวนจากเบอร์โทรศัพท์ทราบว่าผู้ต้องหาใช้โทรศัพท์อยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จึงตามไปตามจับตัวได้ในที่สุด โดยสิ่งที่ผู้ต้องหาได้ขโมยไปนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นพวกพระเครื่องเลี่ยมทองประมาณ 20-30 องค์ อาทิ พระสมเด็จ หลวงปู่ทวด เป็นต้น มีมูลค่าประมาณหลายสิบล้านบาท