ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 29 มิ.ย. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลงถึง 350.33 จุด หรือ 1.95% ปิดที่ 17,596.35 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 43.85 จุด หรือ 2.09% ปิดที่ 2,057.64 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 122.04 จุด หรือ 2.40% ปิดที่ 4,958.47 จุด
หุ้นทั่วโลกร่วงกราว หลังจากกรีซตัดสินใจปิดธนาคารและจำกัดการถอนเงิน เพื่อจัดการปัญหาการแห่ถอนเงินของประชาชน ก่อนที่จะมีการลงคะแนนเสียงประชามติ ให้ประชาชนตัดสินในวันที่ 5 ก.ค. นี้ว่า จะทำตามเงื่อนไขขอเงินช่วยเหลือของบรรดาเจ้าหนี้ หรือไม่ แต่เส้นตายจ่ายหนี้จำนวน 1.5 พันล้านยูโรให้ IMF จะมาถึงในวันที่ 30 มิ.ย.นี้แล้ว
รัฐบาลกรีซประกาศใช้มาตรการควบคุมเงินทุน ขณะที่สั่งปิดธนาคารพาณิชย์ และตลาดหุ้นจนถึงวันที่ 6 ก.ค. ซึ่งเป็นเวลา 1 วันหลังจากที่มีการจัดทำประชามติในวันที่ 5 ก.ค.ว่าด้วยข้อเสนอในการรับเงินช่วยเหลือจากเจ้าหนี้ ส่วนการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มจะถูกจำกัดไว้ที่ 60 ยูโร (65 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อวันในช่วงเวลาที่แบงก์พาณิชย์ปิดทำการ
การประกาศดังกล่าว มีขึ้นหลังจากที่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา บรรดารัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป ปฏิเสธที่จะขยายเวลาสำหรับโครงการความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซ ที่จะสิ้นสุดลงในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจุดปะทุความวิตกว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ 1.6 พันล้านยูโรแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันพรุ่งนี้ และอาจส่งผลให้กรีซต้องออกจากยูโรโซน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) เนื่องจากความกังวลที่ว่า วิกฤตหนี้กรีซอาจจะทวีความรุนแรง หลังจากรัฐบาลกรีซประกาศใช้มาตรการควบคุมเงินทุนและสั่งปิดธนาคาร
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 1.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปรับลง 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 62.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า วิกฤหนี้สินของกรีซอาจจะบานปลายและอาจทำให้กรีซต้องออกจากยูโรโซน โดยกรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระหนี้ 1.6 พันล้านยูโรแก่ IMF ในวันนี้ (30 มิ.ย.) และการผิดนัดชำระหนี้อาจส่งผลให้กรีซต้องออกจากยูโรโซน
ขณะที่ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก สหรัฐ เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ+0.05เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,179.60 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ ออนซ์จากความกังวลต่อปัญหาสภาวะหนี้สินของประเทศกรีซ
หุ้นทั่วโลกร่วงกราว หลังจากกรีซตัดสินใจปิดธนาคารและจำกัดการถอนเงิน เพื่อจัดการปัญหาการแห่ถอนเงินของประชาชน ก่อนที่จะมีการลงคะแนนเสียงประชามติ ให้ประชาชนตัดสินในวันที่ 5 ก.ค. นี้ว่า จะทำตามเงื่อนไขขอเงินช่วยเหลือของบรรดาเจ้าหนี้ หรือไม่ แต่เส้นตายจ่ายหนี้จำนวน 1.5 พันล้านยูโรให้ IMF จะมาถึงในวันที่ 30 มิ.ย.นี้แล้ว
รัฐบาลกรีซประกาศใช้มาตรการควบคุมเงินทุน ขณะที่สั่งปิดธนาคารพาณิชย์ และตลาดหุ้นจนถึงวันที่ 6 ก.ค. ซึ่งเป็นเวลา 1 วันหลังจากที่มีการจัดทำประชามติในวันที่ 5 ก.ค.ว่าด้วยข้อเสนอในการรับเงินช่วยเหลือจากเจ้าหนี้ ส่วนการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มจะถูกจำกัดไว้ที่ 60 ยูโร (65 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อวันในช่วงเวลาที่แบงก์พาณิชย์ปิดทำการ
การประกาศดังกล่าว มีขึ้นหลังจากที่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา บรรดารัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป ปฏิเสธที่จะขยายเวลาสำหรับโครงการความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซ ที่จะสิ้นสุดลงในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจุดปะทุความวิตกว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ 1.6 พันล้านยูโรแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันพรุ่งนี้ และอาจส่งผลให้กรีซต้องออกจากยูโรโซน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) เนื่องจากความกังวลที่ว่า วิกฤตหนี้กรีซอาจจะทวีความรุนแรง หลังจากรัฐบาลกรีซประกาศใช้มาตรการควบคุมเงินทุนและสั่งปิดธนาคาร
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 1.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปรับลง 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 62.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า วิกฤหนี้สินของกรีซอาจจะบานปลายและอาจทำให้กรีซต้องออกจากยูโรโซน โดยกรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระหนี้ 1.6 พันล้านยูโรแก่ IMF ในวันนี้ (30 มิ.ย.) และการผิดนัดชำระหนี้อาจส่งผลให้กรีซต้องออกจากยูโรโซน
ขณะที่ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก สหรัฐ เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ+0.05เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,179.60 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ ออนซ์จากความกังวลต่อปัญหาสภาวะหนี้สินของประเทศกรีซ