บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา (22-26 มิ.ย.) ปิดที่ระดับ 1,518.03 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.78 จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.02 จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 37,041.14 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 665.03 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.22 จากสัปดาห์ก่อน
ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นในวันจันทร์ หลังจากนักลงทุนคลายความกังวลต่อการพบผู้ติดเชื้อโรคเมอร์สรายแรกในประเทศ ก่อนที่จะทรงตัวในวันอังคาร อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นต่อได้ในช่วงกลางสัปดาห์ โดยมีแรงซื้อหุ้น เพื่อทำราคาปิดสิ้นไตรมาส ก่อนที่จะปรับตัวลดลงในวันศุกร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ
ขณะที่สัปดาห์ถัดไป (29 มิ.ย.-3 ก.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีมีแนวต้านที่ 1,525 และ 1,535 จุด ตามลำดับ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1,508 และ 1,490 จุด โดยปัจจัยที่ต้องติดตามในประเทศ ได้แก่ ข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพฤษภาคม ของธนาคารแห่งประเทศไทย (30 มิ.ย.) ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ได้แก่ การเจรจารอบพิเศษระหว่างกรีซกับเจ้าหนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ที่จะครบกำหนดวันที่ 30 มิถุนายนนี้ สำหรับการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ เครื่องชี้ภาคการผลิต (ISM Manufacturing) ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน และเครื่องชี้ตลาดแรงงาน นอกจากนี้ ยังต้องจับตาการรายงานดัชนี PMI จีน ญี่ปุ่น และประเทศในยูโรโซน
ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นในวันจันทร์ หลังจากนักลงทุนคลายความกังวลต่อการพบผู้ติดเชื้อโรคเมอร์สรายแรกในประเทศ ก่อนที่จะทรงตัวในวันอังคาร อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นต่อได้ในช่วงกลางสัปดาห์ โดยมีแรงซื้อหุ้น เพื่อทำราคาปิดสิ้นไตรมาส ก่อนที่จะปรับตัวลดลงในวันศุกร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ
ขณะที่สัปดาห์ถัดไป (29 มิ.ย.-3 ก.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีมีแนวต้านที่ 1,525 และ 1,535 จุด ตามลำดับ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1,508 และ 1,490 จุด โดยปัจจัยที่ต้องติดตามในประเทศ ได้แก่ ข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพฤษภาคม ของธนาคารแห่งประเทศไทย (30 มิ.ย.) ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ได้แก่ การเจรจารอบพิเศษระหว่างกรีซกับเจ้าหนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ที่จะครบกำหนดวันที่ 30 มิถุนายนนี้ สำหรับการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ เครื่องชี้ภาคการผลิต (ISM Manufacturing) ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน และเครื่องชี้ตลาดแรงงาน นอกจากนี้ ยังต้องจับตาการรายงานดัชนี PMI จีน ญี่ปุ่น และประเทศในยูโรโซน