วันนี้ (22 มิ.ย.) เวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และภริยา พร้อมด้วยคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6) โดยเครื่องบินเที่ยวบินพิเศษ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติเนปยีดอ เพื่อเข้าร่วมการประชุมยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ครั้งที่ 6 ณ กรุงเนปยิดอ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายน เมื่อเดินทางถึง ดร.ตัน อ่อง รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุขพม่า และภริยา รอให้การต้อนรับ
หลังจากนั้น เวลา 19.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ช้ากว่าเวลาที่กรุงเทพฯ 30 นาที) นายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมด้วยคณะ เดินทางไปยัง Banquet Hall ศูนย์การประชุม Myanmar International Convention Centre(MICC) เพื่อร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ (Gala Dinner) ซึ่งประธานาธิบดีพม่าและภริยาเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำ (Gala Dinner) แก่ผู้นำประเทศที่เข้าร่วมการประชุม ACMECS
ทั้งนี้ กรอบความร่วมมือ ACMECS เป็นความคิดริเริ่มของไทย ประกอบด้วยประเทศสมาชิก 5 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว พม่า เวียดนาม และไทย เป็นเวทีหารือเฉพาะของประเทศลุ่มแม่น้ำโขงซึ่งเป็นสมาชิกอาเซียน มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจตามแนวชายแดน สร้างโอกาสการจ้างงาน และลดช่องว่างทางเศรษฐกิจและการพัฒนาระหว่างประเทศสมาชิก ส่งเสริมให้เกิดสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองแบบยั่งยืนร่วมกัน เพื่อนำไปสู่ส่งเสริมการบูรณาการของอาเซียนในภาพรวม
หลังจากนั้น เวลา 19.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ช้ากว่าเวลาที่กรุงเทพฯ 30 นาที) นายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมด้วยคณะ เดินทางไปยัง Banquet Hall ศูนย์การประชุม Myanmar International Convention Centre(MICC) เพื่อร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ (Gala Dinner) ซึ่งประธานาธิบดีพม่าและภริยาเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำ (Gala Dinner) แก่ผู้นำประเทศที่เข้าร่วมการประชุม ACMECS
ทั้งนี้ กรอบความร่วมมือ ACMECS เป็นความคิดริเริ่มของไทย ประกอบด้วยประเทศสมาชิก 5 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว พม่า เวียดนาม และไทย เป็นเวทีหารือเฉพาะของประเทศลุ่มแม่น้ำโขงซึ่งเป็นสมาชิกอาเซียน มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจตามแนวชายแดน สร้างโอกาสการจ้างงาน และลดช่องว่างทางเศรษฐกิจและการพัฒนาระหว่างประเทศสมาชิก ส่งเสริมให้เกิดสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองแบบยั่งยืนร่วมกัน เพื่อนำไปสู่ส่งเสริมการบูรณาการของอาเซียนในภาพรวม
