นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าจากการติดตามวัดระดับค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา สั่งการให้กรมชลประทานเฝ้าระวังค่าความเค็ม ช่วงปากคลองสำแล อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นปากคลองรับน้ำดิบเข้าคลองประปา และให้ระบายน้ำเพิ่มเพื่อไล่น้ำเค็ม หลังพบว่าน้ำเค็มได้ไหลย้อนขึ้นมาถึงปากคลองสำแล ทำให้ค่าความเค็มสูงกว่ามาตรฐาน โดยนายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน พยายามบริหารจัดการระบายเพิ่มเข้ามาในพื้นที่แหล่งผลิตน้ำประปาผลักดันน้ำเค็มในอัตราจากระบาย 70 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มเป็น 75 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สามารถทำให้ระดับค่าความเค็มเป็นปกติ บริเวณปากคลองสำแล มีค่าความเค็มเกินเกณฑ์มาตราฐานการผลิตน้ำประปา ที่ระดับ 0.37 กรัมเกลือต่อลิตรโดยมีค่าความเค็มเกินเป็นรายชั่วโมงในบางช่วงของวัน แต่เมื่อนำเฉลี่ยตลอดทั้งวันพบว่า ค่าความเค็มยังอยู่ในเกณฑ์มาตราฐานการผลิตน้ำประปาไม่กร่อย ยังอยู่ที่ระดับ 0.25 กรัมเกลือต่อลิตร
สำหรับปริมาณค่าความเค็มที่ลุ่มน้ำท่าจีน วัดที่ปากคลองจินดา ตอนนี้ยังอยู่เกณฑ์บริหารจัดการได้ โดยไม่เกิน จุดเฝ้าระวัง 0.75 กรัมเกลือต่อลิตร จึงยังไม่กระทบกับสวนกล้วยไม้ ส่วนที่แม่น้ำบางปะกง ค่าความเค็มอยู่ในเกณฑ์ธรรมชาติตามช่วงที่เคยเกิดขึ้น และในวันอังคารที่ 23 มิ.ย.นัดประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารน้ำ 10 หน่วยงาน มาประเมินสถานการณ์ทั้งหมดโดยดูปริมาณน้ำเขื่อน ปริมาณฝน สภาพอากาศ เพื่อใช้ในการบริหารน้ำอย่างใกล้ชิดอีกรอบ
สำหรับปริมาณค่าความเค็มที่ลุ่มน้ำท่าจีน วัดที่ปากคลองจินดา ตอนนี้ยังอยู่เกณฑ์บริหารจัดการได้ โดยไม่เกิน จุดเฝ้าระวัง 0.75 กรัมเกลือต่อลิตร จึงยังไม่กระทบกับสวนกล้วยไม้ ส่วนที่แม่น้ำบางปะกง ค่าความเค็มอยู่ในเกณฑ์ธรรมชาติตามช่วงที่เคยเกิดขึ้น และในวันอังคารที่ 23 มิ.ย.นัดประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารน้ำ 10 หน่วยงาน มาประเมินสถานการณ์ทั้งหมดโดยดูปริมาณน้ำเขื่อน ปริมาณฝน สภาพอากาศ เพื่อใช้ในการบริหารน้ำอย่างใกล้ชิดอีกรอบ