นายนรชิต สิงหเสนี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือนักศึกษาไทยทั้ง 5 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานเมืองละฮอร์ สาธารณรัฐอิสลามปากีสถานควบคุมตัว ในข้อหาพกอาวุธปืนในท่าอากาศยาน หลังจากเครื่องเอกซเรย์ตรวจพบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. พร้อมแถบบรรจุกระสุน และกระสุนปืนแยกซุกซ่อนไว้ ขณะที่กําลังจะขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทย ว่า ขณะนี้ได้ให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอิสลามาบัด และเจ้าหน้าที่กรมการกงสุล ประสานงานกับทางการปากีสถาน ในการให้ความช่วยเหลือและดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว โดยขณะนี้ทั้ง 5 คนยังอยู่ระหว่างการสอบสวนของทางการปากีสถาน จึงยังต้องติดตามต่อไปว่า จะมีการดำเนินการกับนักศึกษาไทยกลุ่มนี้อย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กระทรวงการต่างประเทศจะติดตามให้ความช่วยเหลือตามหน้าที่อย่างดีที่สุด หากมีการขึ้นศาลก็จะจัดหาทนายให้ แต่สิ่งที่ทำได้ในขณะนี้คือการดูแลเรื่องสวัสดิภาพให้ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
นายนรชิต กล่าวว่า โดยหลักการพกพาอาวุธเข้าอากาศยาน เป็นความผิดอยู่แล้ว ไม่ว่าบุคคลนั้นจะจงใจหรือไม่จงใจก็ตาม รวมถึงรับฝากจากใครด้วย เพราะกฎหมายถือว่าเรื่องนี้เป็นความผิดร้ายแรง ซึ่งทางการปากีสถานก็สอบสวนอยู่
นายนรชิต กล่าวว่า โดยหลักการพกพาอาวุธเข้าอากาศยาน เป็นความผิดอยู่แล้ว ไม่ว่าบุคคลนั้นจะจงใจหรือไม่จงใจก็ตาม รวมถึงรับฝากจากใครด้วย เพราะกฎหมายถือว่าเรื่องนี้เป็นความผิดร้ายแรง ซึ่งทางการปากีสถานก็สอบสวนอยู่
