นายบุญชอบ หอมเกสร ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้ ระบุว่า เขื่อนพระรามหกที่อยู่ในความดูแลเพื่อการทดน้ำเข้าพื้นที่การเกษตร ผ่านเข้าคลองระพีพัฒน์สายหลักและส่งต่อให้คลองสาขาอีก 11 คลอง ใน 3 จังหวัด คือฝั่งตะวันออกของ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ปทุมธานี รวมถึงฝั่งตะวันตกของจังหวัดนครนายก ซึ่งเขื่อนพระรามหกรับน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 40 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคลองชัยนาท-ป่าสัก 31 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่สถานการณ์น้ำในขณะนี้อาจไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูกข้าวนาปี ซึ่งพบว่า พื้นที่ดังกล่าวยังมีการทำนาปีอยู่ประมาณ 80,000 ไร่ และเริ่มไถหว่านไปแล้ว 50,000 ไร่ ประกอบกับช่วงนี้เขื่อนไม่มีการระบายน้ำทางท้ายเขื่อน เนื่องจากอยู่ระหว่างการซ่อมแซมประตูน้ำ แม้มีการดึงน้ำปริมาณ 45 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เข้าประตูน้ำพระนารายณ์ ส่งเข้าคลองระพีพัฒน์ แต่เชื่อว่าไม่เพียงพอ ขอเตือนชาวนาในพื้นที่ 3 จังหวัด ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และวางแผนการเพาะปลูก หรือชะลอไว้ก่อน เพื่อลดความเสี่ยงของความเสียหาย