ที่วัดธารน้ำไหล (สวนโมกขพลาราม) จ.สุราษฎร์ธานี พระสุเทพ ปภากโร (สุเทพ เทือกสุบรรณ) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว การลาสิกขา ว่า ข่าวที่บอกว่า จะลาสิกขาเป็นเรื่องจริง เพราะได้พิจารณาแล้ว ว่า 1.ยังมีงานที่เราจะต้องไปช่วยเขาทำ ฉะนั้นจึงตัดสินใจ ว่า คงลาสิกขาแน่ ส่วนจะเมื่อไร ต้องคิดก่อน เพราะเรามีงานที่ต้องทำ 2.เมื่อลาสิกขาแล้ว จะไม่กลับไปเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ อีกและจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.อีกแล้ว ไม่ไปต่อสู้ในทางการเมืองอย่างที่เคยทำมาอีกแล้ว 3.เราตั้งใจจะไปทำงานในภาคประชาชน เพราะได้จดทะเบียนในนาม มูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ก็จะทำงานสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน
พระสุเทพ กล่าวต่อว่า อาทิ สนับสนุนโครงการชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง ไปทำชุมชนต้นแบบให้หนุ่มสาว และจะทำโรงเรียนในฝัน ที่จะผลิตนักเรียน ที่มีคุณภาพ รู้ภาษาจีน ภาษารัสเซีย และภาษาอังกฤษ สามารถไปทำงานเป็นพนักงานของบริษัททัวร์ โรงแรม และมีคุณธรรม เป็นนักเรียนที่มีคุณธรรม โดยโรงเรียนจะเรียนฟรี เพื่อต้องการผลิตคนดีออกไปรับใช้สังคม
เมื่อถามว่า มีสมาชิก กปปส.บางคน กลับไปร่วมงานในนามพรรคประชาธิปัตย์ แล้ว พระสุเทพ กล่าวว่า เป็นสิทธิของเขา คนออกมาต่อสู้ร่วมกันเมื่อปี 2556-2557 หลายล้านคน จะมาตัดสินอย่างเราคงไม่ได้ บางคนต้องไปเป็น ส.ส. บางคนก็ทำงานการเมือง สุดแล้วแต่ของแต่ละคน กับบรรดา อดีต ส.ส.ที่เคยเดินในถนน หากจะมาปรึกษาก็ธรรมดา เราสามารถให้ความคิดเห็นที่ถูกต้องได้ ตราบใดที่เราให้ความเห็นที่ถูกต้อง
พระสุเทพ กล่าวต่อว่า อาทิ สนับสนุนโครงการชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง ไปทำชุมชนต้นแบบให้หนุ่มสาว และจะทำโรงเรียนในฝัน ที่จะผลิตนักเรียน ที่มีคุณภาพ รู้ภาษาจีน ภาษารัสเซีย และภาษาอังกฤษ สามารถไปทำงานเป็นพนักงานของบริษัททัวร์ โรงแรม และมีคุณธรรม เป็นนักเรียนที่มีคุณธรรม โดยโรงเรียนจะเรียนฟรี เพื่อต้องการผลิตคนดีออกไปรับใช้สังคม
เมื่อถามว่า มีสมาชิก กปปส.บางคน กลับไปร่วมงานในนามพรรคประชาธิปัตย์ แล้ว พระสุเทพ กล่าวว่า เป็นสิทธิของเขา คนออกมาต่อสู้ร่วมกันเมื่อปี 2556-2557 หลายล้านคน จะมาตัดสินอย่างเราคงไม่ได้ บางคนต้องไปเป็น ส.ส. บางคนก็ทำงานการเมือง สุดแล้วแต่ของแต่ละคน กับบรรดา อดีต ส.ส.ที่เคยเดินในถนน หากจะมาปรึกษาก็ธรรมดา เราสามารถให้ความคิดเห็นที่ถูกต้องได้ ตราบใดที่เราให้ความเห็นที่ถูกต้อง