ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 28 มี.ค. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 36.87 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 18,126.12 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 2.69 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 2,120.79 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 8.61 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 5,097.98 จุด
เมื่อวันพฤหัสบดีดัชนีหุ้น DAX30 ของเยอรมนี ลดลง 0.79% ขณะที่ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศสลดลง 0.86% จากความตึงเครียดในการเผชิญหน้ากันระหว่างกรีซซึ่งกำลังหนี้ท่วม และเจ้าหนี้ต่างชาติ ในการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของกลุ่ม จี7 ที่เยอรมนี
โดยนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการบริหารของไอเอ็มเอฟ ซึ่งเข้าร่วมในการประชุมดังกล่าวด้วย เตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่กรีซจะต้องออกจากกลุ่มยูโรโซน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลแรงงานที่สดใสของสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ ปิดที่ 57.68 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ปรับขึ้น 52 เซนต์ ปิดที่ 62.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงหนุนหลังจาก EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 479.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 433,000 บาร์เรล สู่ระดับ 60.0 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 220.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.2014 และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลงเพียง 1 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 128.8 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 400,000 บาร์เรล
ด้านทองคำเมื่อวันพฤหัสบดี (28พ.ค.) ปิดบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน จากแรงช้อนซื้อของนักลงทุน
โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,188.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เมื่อวันพฤหัสบดีดัชนีหุ้น DAX30 ของเยอรมนี ลดลง 0.79% ขณะที่ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศสลดลง 0.86% จากความตึงเครียดในการเผชิญหน้ากันระหว่างกรีซซึ่งกำลังหนี้ท่วม และเจ้าหนี้ต่างชาติ ในการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของกลุ่ม จี7 ที่เยอรมนี
โดยนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการบริหารของไอเอ็มเอฟ ซึ่งเข้าร่วมในการประชุมดังกล่าวด้วย เตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่กรีซจะต้องออกจากกลุ่มยูโรโซน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลแรงงานที่สดใสของสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ ปิดที่ 57.68 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ปรับขึ้น 52 เซนต์ ปิดที่ 62.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงหนุนหลังจาก EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 479.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 433,000 บาร์เรล สู่ระดับ 60.0 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 220.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.2014 และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลงเพียง 1 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 128.8 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 400,000 บาร์เรล
ด้านทองคำเมื่อวันพฤหัสบดี (28พ.ค.) ปิดบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน จากแรงช้อนซื้อของนักลงทุน
โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,188.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์