พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการดูแลชาวโรฮีนจา หลังกองทัพไทยตั้งศูนย์อำนวยการลาดตระเวนและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย (ศอ.ยฐ.) ว่า ไทยดูแลตามหลักมนุษยธรรม โดยแบ่งงานกันชัดเจน ถ้าผู้อพยพรุกล้ำเข้ามาก็ต้องควบคุม เพราะผิดกฎหมายคนเข้าเมือง นอกจากนี้ จะดูที่จุดประสงค์ว่าต้องการไปประเทศที่สามหรือความช่วยเหลืออย่างไร แต่ไม่ขับไล่
สำหรับงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการ ยังไม่มีความชัดเจน แต่กองทัพไทยจะเป็นฝ่ายประเมิน รวมถึงต้องนำเรื่องนี้ไปหารือองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และนำเข้าสู่ที่ประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้
ส่วนกรณีพบศพหลุมศพชาวโรฮีนจาใกล้กับชายแดนไทย-มาเลเซีย ทางการมาเลเซียได้ประสานไทยว่าขอเคลื่อนย้ายศพที่พบผ่านไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ปัญหาชาวโรฮีนจาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว เมื่อมีปัญหาไทยต้องแก้ไขตามหลักสิทธิมนุษยธรรม และประสานความร่วมมือกับสหประชาชาติในการดูแลต่อไป ที่สำคัญต้องกลับไปดูที่ต้นทางปัญหาว่าเหตุใดจึงมีการอพยพ
สำหรับงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการ ยังไม่มีความชัดเจน แต่กองทัพไทยจะเป็นฝ่ายประเมิน รวมถึงต้องนำเรื่องนี้ไปหารือองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และนำเข้าสู่ที่ประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้
ส่วนกรณีพบศพหลุมศพชาวโรฮีนจาใกล้กับชายแดนไทย-มาเลเซีย ทางการมาเลเซียได้ประสานไทยว่าขอเคลื่อนย้ายศพที่พบผ่านไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ปัญหาชาวโรฮีนจาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว เมื่อมีปัญหาไทยต้องแก้ไขตามหลักสิทธิมนุษยธรรม และประสานความร่วมมือกับสหประชาชาติในการดูแลต่อไป ที่สำคัญต้องกลับไปดูที่ต้นทางปัญหาว่าเหตุใดจึงมีการอพยพ