พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริม และสนับสนุนชาวต่างชาติให้เข้ามาดำเนินธุรกิจ หรือเข้ามาลงทุนในไทย เนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ยังต้องการการลงทุนจากต่างประเทศ และต้องการผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ความสามารถเข้ามาเพิ่มศักยภาพของประเทศไทย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจึงได้ลงนามให้ความเห็นชอบให้คนต่างด้าวเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ซึ่งผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมืองแล้ว 680 ราย แบ่งเป็นเรื่องที่ค้างการพิจารณาจำนวน 565 ราย และได้ให้ความเห็นชอบเพิ่มเติมอีกจำนวน 115 ราย โดยส่วนใหญ่จะเป็นการเข้ามาเพื่อทำงาน มาอยู่กับครอบครัว และเข้ามาเป็นกรณีพิเศษ เช่น เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศไทย รวมถึงการเข้ามาเพื่อการลงทุน
ทั้งนี้ ในการพิจารณาได้คำนึงถึงรายได้ ทรัพย์สิน ความรู้ ความสามารถด้านวิชาชีพ และเงื่อนไขเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติและเรื่องอื่นๆ ตามความเหมาะสมที่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และนโยบายรัฐบาล
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการให้ถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรไทยแก่คนต่างด้าวได้ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ บริสุทธิ์ ยุติธรรม เชื่อว่าจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่น และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของรัฐที่ต้องการจะเปิดรับชาวต่างชาติที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ให้เข้ามาอยู่อาศัยในประเทศไทยได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย สะดวกสบาย มีหลักประกัน และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศไทย
ทั้งนี้ ในการพิจารณาได้คำนึงถึงรายได้ ทรัพย์สิน ความรู้ ความสามารถด้านวิชาชีพ และเงื่อนไขเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติและเรื่องอื่นๆ ตามความเหมาะสมที่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และนโยบายรัฐบาล
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการให้ถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรไทยแก่คนต่างด้าวได้ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ บริสุทธิ์ ยุติธรรม เชื่อว่าจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่น และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของรัฐที่ต้องการจะเปิดรับชาวต่างชาติที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ให้เข้ามาอยู่อาศัยในประเทศไทยได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย สะดวกสบาย มีหลักประกัน และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศไทย