นายทวี กาญจนา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง เปิดเผยว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยเกษตรกรทั่วประเทศ หลังจากที่เริ่มมีฝนตกในหลายพื้นที่แต่ปริมาณฝนส่วนใหญ่ ไม่ตกลงในพื้นที่เป้าหมายทางการเกษตร และเขื่อนต่างๆ ยังคงมีปริมาณน้ำน้อยกว่าที่คาดการณ์ โดยได้เร่งสนองพระราชประสงค์ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ซึ่งทรงเป็นพระบิดาฝนหลวงของไทย ด้วยการย้ายฐานปฏิบัติการจาก จ.นครสวรรค์ ตั้งฐานปฏิบัติการแห่งใหม่ ณ ฐานบินโคกกระเทียม ภายในกองบิน 2 ต.เขาพระงาม อ.เมือง จ.ลพบุรี เพื่อใช้โอกาสช่วงชิงสภาพอากาศที่เป็นใจนำอากาศยานทำฝนเทียมแบบคาซ่า จำนวน 2 ลำ ขึ้นบินโปรยสารเคมี บริเวณฐานเมฆที่มีการก่อตัว ในระดับความสูง 7,000 ฟุต ตั้งแต่ จ.กาญจนบุรี สุพรรณบุรี เพื่อกำหนดให้ฝนตก ตามพื้นที่เป้าหมายที่กำหนดไว้ และเพิ่มปริมาณฝนให้ตกมากขึ้น และตกได้นานกว่าเดิม โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เหนือเขื่อน และอ่างเก็บน้ำต่างๆ ที่มีปริมาณน้ำกักเก็บน้อยกว่าร้อยละ 30 เปอร์เซ็นต์ ประกอบด้วย เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อ่างเก็บน้ำทับเสลา อ่างเก็บน้ำกระเสียว รวมถึงครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกในช่วงต้นฤดูฝน รวม 11 จังหวัด ได้แก่ จ.นครสวรรค์ สระบุรี อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี เพชรบูรณ์ และลพบุรี อีกด้วย