เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สตูล นราธิวาส ระนอง ภูเก็ต พังงา สุราษฎร์ธานี ตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจภูธรภาค 9 ทัพเรือภาคที่ 2 กอ.รมน.ในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองชาวโรฮีนจาอย่างเร่งด่วน
แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยหลังการประชุมว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่มีผู้อพยพชาวโรฮีนจาจากประเทศต้นทาง เพื่อจะเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย แรงงานต่างด้าว และการค้ามนุษย์ (โรฮีนจา) ในพื้นที่รับผิดชอบ จึงได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ เพื่อให้มีการดำเนินงานตามมาตรการอย่างเข้มข้น เป็นไปในทิศทางและดำเนินการตาม 9 ขั้นตอน สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล โดยได้ประสานความร่วมมือในการสกัดกั้นป้องกันทางทางทะเลและทางบก ซึ่งในส่วนของทางทะเลนั้นได้มีการประสานกับทัพเรือภาคที่ 2 และทุกภาคส่วน ในการร่วมกันเป็นหูเป็นตาร่วมแจ้งเบาะแส ซึ่งมั่นใจว่าหากดำเนินการตามขั้นตอนและมีความร่วมมือกันเป็นอย่างดี ก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์และสามารถสกัดกั้นการลักลอบเข้ามาได้
ส่วนมาตรการสกัดกั้นทางบก มีการเน้นย้ำให้ตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 เพิ่มมาตรการป้องกันและปราบปรามบริเวณพื้นที่รับผิดชอบในการควบคุมเส้นทางการลักลอบขนย้ายชาวโรฮีนจาทางบก
นอกจากนี้ ยังมีการประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ และยังมีการประสานความร่วมมือกับประเทศมาเลเซียในการประชุมและลาดตระเวนร่วม โดยทางการไทยได้มีการแจ้งพื้นที่สงสัยไว้แล้ว เพื่อให้มีการดูแลอย่างพิเศษในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ ขั้นต้นได้มีกรอบการทำงานที่จะบูรณาการ การดำเนินมาตรการสกัดกั้นการลักลอบขนย้ายชาวโรฮีนจาทั้งทางบก และทางทะเลอย่างเข้มข้นไปจนถึงเดือนสิ้นกันยายนนี้ ซึ่งมั่นใจว่าหากทุกภาคส่วนในพื้นที่ดำเนินการตามขั้นตอนที่วางไว้ จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยหลังการประชุมว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่มีผู้อพยพชาวโรฮีนจาจากประเทศต้นทาง เพื่อจะเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย แรงงานต่างด้าว และการค้ามนุษย์ (โรฮีนจา) ในพื้นที่รับผิดชอบ จึงได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ เพื่อให้มีการดำเนินงานตามมาตรการอย่างเข้มข้น เป็นไปในทิศทางและดำเนินการตาม 9 ขั้นตอน สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล โดยได้ประสานความร่วมมือในการสกัดกั้นป้องกันทางทางทะเลและทางบก ซึ่งในส่วนของทางทะเลนั้นได้มีการประสานกับทัพเรือภาคที่ 2 และทุกภาคส่วน ในการร่วมกันเป็นหูเป็นตาร่วมแจ้งเบาะแส ซึ่งมั่นใจว่าหากดำเนินการตามขั้นตอนและมีความร่วมมือกันเป็นอย่างดี ก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์และสามารถสกัดกั้นการลักลอบเข้ามาได้
ส่วนมาตรการสกัดกั้นทางบก มีการเน้นย้ำให้ตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 เพิ่มมาตรการป้องกันและปราบปรามบริเวณพื้นที่รับผิดชอบในการควบคุมเส้นทางการลักลอบขนย้ายชาวโรฮีนจาทางบก
นอกจากนี้ ยังมีการประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ และยังมีการประสานความร่วมมือกับประเทศมาเลเซียในการประชุมและลาดตระเวนร่วม โดยทางการไทยได้มีการแจ้งพื้นที่สงสัยไว้แล้ว เพื่อให้มีการดูแลอย่างพิเศษในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ ขั้นต้นได้มีกรอบการทำงานที่จะบูรณาการ การดำเนินมาตรการสกัดกั้นการลักลอบขนย้ายชาวโรฮีนจาทั้งทางบก และทางทะเลอย่างเข้มข้นไปจนถึงเดือนสิ้นกันยายนนี้ ซึ่งมั่นใจว่าหากทุกภาคส่วนในพื้นที่ดำเนินการตามขั้นตอนที่วางไว้ จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้