นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า วันนี้ (22 พ.ค.) ที่ประชุม กสทช.วาระพิเศษพิจารณาเรื่องการเลื่อนกำหนดระยะเวลาในการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ โดยได้พิจารณาความเห็นของสองหน่วยงานคือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานอัยการสูงสุด ที่มีหนังสือตอบกลับเข้ามาภายหลังจากที่สำนักงาน กสทช.มีหนังสือสอบถามความเห็นเรื่องการเลื่อนกำหนดระยะเวลาในการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติไป
โดย สตง.ได้มีหนังสือตอบกลับมาเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ให้ความเห็นว่า การเลื่อนกำหนดระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติงวดที่ 2 ออกไป กสทช.ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากประกาศ กสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ พ.ศ.2556 และในเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ ได้ระบุถึงระยะเวลาการชำระค่าธรรมเนียมให้ใช้คลื่นความถี่ไว้อย่างชัดเจน ซึ่งถือเป็นการทำสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างกัน หากมีการเลื่อนกำหนดการชำระออกไปจะต้องมีการแก้ไขเงื่อนไขแนบท้าย ซึ่งจะทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย และเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน
ในส่วนของสำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีหนังสือตอบกลับมาเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ให้ความเห็นว่า กสทช.ไม่อาจเลื่อนกำหนดระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติงวดที่ 2 ออกไปได้ นอกจากจะได้มีการแก้ไขประกาศ กสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ พ.ศ.2556 หรือออกประกาศฉบับใหม่โดยประกาศฉบับใหม่จะต้องไม่ทำให้รัฐเสียหาย ซึ่ง กสทช.ต้องพิจารณาว่า การกระทำดังกล่าวจะมีผลเป็นการเอื้อประโยชน์แก่เอกชนบางรายหรือไม่ และจะเป็นการทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการหรือไม่ ซึ่งนัยดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการเลื่อนกำหนดระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติงวดที่ 2 ออกไปได้
ทั้งนี้ ที่ประชุม กสทช.มีมติเห็นชอบกับความเห็นของทั้งสองหน่วยงาน จึงได้มีมติไม่ให้เลื่อนกำหนดระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติงวดที่ 2 และให้ผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิตอลซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตฯ ทั้ง 24 ราย มาชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติงวดที่ 2 ตามกำหนดระยะเวลาเดิม ซึ่งขณะนี้มีผู้เข้ามาชำระแล้ว 3 ราย รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,339,105,000 บาท
สำหรับผู้ที่มาชำระแล้ว ได้แก่ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ช่อง 7HD ชำระจำนวน 683,730,000 บาท บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด ช่อง Workpoint TV ชำระจำนวน 333,305,000 บาท และบริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด ช่อง MONO 29 ชำระจำนวน 322,070,000 บาท
โดย สตง.ได้มีหนังสือตอบกลับมาเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ให้ความเห็นว่า การเลื่อนกำหนดระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติงวดที่ 2 ออกไป กสทช.ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากประกาศ กสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ พ.ศ.2556 และในเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ ได้ระบุถึงระยะเวลาการชำระค่าธรรมเนียมให้ใช้คลื่นความถี่ไว้อย่างชัดเจน ซึ่งถือเป็นการทำสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างกัน หากมีการเลื่อนกำหนดการชำระออกไปจะต้องมีการแก้ไขเงื่อนไขแนบท้าย ซึ่งจะทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย และเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน
ในส่วนของสำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีหนังสือตอบกลับมาเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ให้ความเห็นว่า กสทช.ไม่อาจเลื่อนกำหนดระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติงวดที่ 2 ออกไปได้ นอกจากจะได้มีการแก้ไขประกาศ กสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ พ.ศ.2556 หรือออกประกาศฉบับใหม่โดยประกาศฉบับใหม่จะต้องไม่ทำให้รัฐเสียหาย ซึ่ง กสทช.ต้องพิจารณาว่า การกระทำดังกล่าวจะมีผลเป็นการเอื้อประโยชน์แก่เอกชนบางรายหรือไม่ และจะเป็นการทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการหรือไม่ ซึ่งนัยดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการเลื่อนกำหนดระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติงวดที่ 2 ออกไปได้
ทั้งนี้ ที่ประชุม กสทช.มีมติเห็นชอบกับความเห็นของทั้งสองหน่วยงาน จึงได้มีมติไม่ให้เลื่อนกำหนดระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติงวดที่ 2 และให้ผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิตอลซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตฯ ทั้ง 24 ราย มาชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติงวดที่ 2 ตามกำหนดระยะเวลาเดิม ซึ่งขณะนี้มีผู้เข้ามาชำระแล้ว 3 ราย รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,339,105,000 บาท
สำหรับผู้ที่มาชำระแล้ว ได้แก่ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ช่อง 7HD ชำระจำนวน 683,730,000 บาท บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด ช่อง Workpoint TV ชำระจำนวน 333,305,000 บาท และบริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด ช่อง MONO 29 ชำระจำนวน 322,070,000 บาท